เมื่อวันที่ 10 มี.ค.2567 กองทัพสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้อพยพเจ้าหน้าที่การทูตสหรัฐฯ บางส่วนที่ประจำการในกรุงปอร์โตแปรงซ์ของเฮติออกมาทางอากาศ และเพิ่มกำลังในการรักษาความมั่นคงของสถานเอกอัครราชทูตในเฮติ
การเคลื่อนย้ายบุคลากรเข้าและออกจากสถานทูตนี้ สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติมาตรฐานในการเพิ่มความมั่นคงของสถานทูตทั่วโลก และไม่มีชาวเฮติขึ้นไปบนเครื่องบินทหารแต่อย่างใด
ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ระบุว่า ความรุนแรงของกลุ่มอาชญากรที่เพิ่มสูงขึ้นในละแวกใกล้เคียงใกล้กับบริเวณสถานทูตและบริเวณใกล้กับสนามบิน ทำให้กระทรวงการต่างประเทศตัดสินใจให้บุคลากรสถานทูตต้องอพยพออก แต่สถานทูตยังคงเปิดทำการอยู่
อ่านข่าว : เฮติวิกฤต! ยึดสนามบิน-ปล่อยนักโทษ กลุ่มอาชญากรประกาศล้มรัฐบาล
การอพยพครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณล่าสุดของปัญหาในเฮติที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังกลุ่มอาชญากรยกระดับการโจมตีเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง ซึ่งขณะนี้กลุ่มอาชญากรเข้าควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองหลวงเอาไว้ได้แล้ว รวมถึงถนนที่เป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปยังพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ จนทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย และยิ่งซ้ำเติมให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมของเฮติย่ำแย่ลง
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ระบุว่า สถานการณ์ความไม่สงบดังกล่าวส่งผลให้ชาวเฮติกว่า 362,000 คนต้องพลัดถิ่นภายในประเทศ โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก
ขณะที่องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ประมาณการว่า เมื่อปี 2023 มีประชาชนอย่างน้อย 2,300 คนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในย่านซิต โซเล ในกรุงปอร์โตแปรงซ์เพียงแห่งเดียว ซึ่งย่านดังกล่าวเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนในเมืองหลวงร้อยละ 9
อ่านข่าวอื่นๆ
ปริศนา 10 ปี “เที่ยวบิน MH370” หายไร้ร่องรอย
สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส วอน "ยูเครน" เจรจายุติสงคราม
นักท่องเที่ยวล้น-ขยะเกลื่อน "ภูเขาไฟฟูจิ" เล็งเก็บเงิน 500 บาท