สวมบทเซลส์แมนขายซอฟท์เพาเวอร์ของดีของไทย ในเวทีผู้นำโลก ทั้งยังเข้าห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดัง เสนอเปิดพื้นที่เพิ่ม เพื่อเปิดช่องทางจำหน่ายสินค้าของไทย รวมทั้งเดินโชว์บนท้องถนน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าจากไทย
ระหว่างนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้จังหวะซ่อมแซมปรับปรุง และปรับทัศนวิสัยรอบ ๆ ทำเนียบใหม่ ชนิดเร่งวันเร่งคืนแล้วเสร็จ ก่อนนายเศรษฐา จะกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล
เป็นที่มาของข่าวใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท รีโนเวตทำเนียบฯ ใหม่ 12 รายการ ตั้งแต่เปลี่ยนกระจกห้องทำงานชั้น 2 ใหม่ 3 แสนบาท การปรับปรุงสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าให้มีคุณภาพเท่าสนามกอล์ฟเกรดพรีเมียม วงเงิน 4.98 ล้านบาท
ซื้อติดตั้งคอมพิวเตอร์ 4.31 ล้านบาท ซื้อรถบรรทุกเครื่องยนต์ดีเซล 1.16 ล้านบาท พัฒนาปรับปรุงเว็บไซต์รัฐบาลไทย วงเงิน 5 ล้านบาท จ้างทอพรมทอมือเส้นใยขนแกะ 100 % 9 ผืน วงเงิน 10.5 ล้านบาท พัฒนาระบบสำนักงานดิจิทัล วงเงิน 11.7 ล้านบาท กระทั่งถึงซื้อครุภัณฑ์การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ 58 ล้านบาท
ก่อให้เกิด “งานเข้า” มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อึ้งมี่ถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะจากพรรคก้าวไกล นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ที่ตั้งข้อสังเกตว่า มีงบประมาณปรับปรุงทำเนียบฯ เป็นประจำแทบทุกปี เช่น งบด้านความปลอดภัยทำเนียบ และงบพัฒนาระบบไซเบอร์ หากใช้ไม่หมด อาจเกรงว่า จะถูกตัดงบประมาณในปีต่อไป ซึ่งหากข้าราชการคิดกันแบบนี้ จะทำให้ไม่มีงบสำหรับช่วยเหลือประชาชน
นายจิรัฏฐ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกับงบฯ ผ้าทอมือขนแกะ 10.5 ล้านบาท เพราะไม่เห็นมีความจำเป็น หรือหากจะเว้นการใช้จ่ายออกไปสักปีจะได้หรือไม่
เรื่องปรับภูมิทัศน์ เสริมฮวงจุ้ยทำเนียบรัฐบาล เคยมีให้เห็นบ่อยครั้งในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุท์ จันทร์โอชา ไม่เพียงตั้งอ่างบัวตามจุดต่าง ๆ เพื่อเสริมสิริมงคล และการนำองค์นรสิงห์ไปตั้งบนตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ออกไปเท่านั้น ยังดำริให้ก่อสร้างตึกภักดีบดินทร์ ด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า งบประมาณ 137 ล้านบาท มีการให้ซินแสมาวางฮวงจุ้ยอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
เป็นเหตุให้ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ต้องออกโรงชี้แจงเรื่องแผนงานงบประมาณของ สำนักเลขาธิการนายกฯ เรื่องระบบไอที และระบบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญทั้งในด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูลรัฐบาล
ก่อนที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ จะยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณ 138 ล้านบาท ดังกล่าวเป็นการสวนทางมติ ครม.ที่เห็นชอบตามข้อเสนอนายกฯให้ปรับลดงบประมาณที่ไม่จำเป็นลงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังให้ตรวจสอบความถูกต้องเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ “งบประมาณปี 2566” ไปพลางๆ ก่อน ช่วงงบประมาณรายจ่าย ปี 2567 ยังไม่เสร็จสิ้นนั้น ต้องเป็นโครงการเดิมที่มีในแผนและงบปี 2566 อยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้รวมถึงโครงการใหม่หรือการลงทุนเพิ่มเติม
จึงเป็นประเด็นร้อนที่ พุ่งเข้าหารัฐบาลนายเศรษฐา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ภูมิทัศน์หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่ผ่านการปรับเปลี่ยนเรียบร้อยแล้ว หากมองผิวเผินก็จะดูดีกว่าภูมิทัศน์เดิม ที่เคยเป็น แต่หากมองให้ชัด จะไม่เห็นความแตกต่างของหญ้า ในสนามหน้าตึกไทยชุดก่อน กับชุดปัจจุบัน ที่เจ้าหน้ที่ทำเนียบกำลังเร่งพรมรดน้ำอยู่ในขณะนี้
ทั้งที่ตีปี๊บระบุเป็นหญ้าระดับเดียวกับที่ใช้ปูสนามกอล์ฟระดับพรีเมียม แบบวีไอพี นุ่มเท้า สีสันสวยงาม
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา