ภาวะโลกร้อนมันไม่ใช่เรื่องไกลตัว เมนูโปรดของคุณผู้ชมอาจจะต้องจ่ายแพงขึ้น หรือหาได้ยากขึ้นในช่วง ร้อน-แล้ง เงินในกระเป๋าอาจจะต้องจ่ายเพิ่มในช่วง 2 เดือนนี้ ปีนี้กรมอุตุนิยมวิทยาเผยว่าจะเจออากาศร้อนจัดในรอบ 174 ปี และแล้งนาน
สอดคล้องกับข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ ที่มีข้อมูลว่าเรากำลังนับถอยหลังสู่ช่วงที่ร้อนที่สุดคือ "เดือนเมษายน" ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเกษตรกร ทุกภาคทั่วประเทศ ที่ผลผลิตพืช-ผักจะลดน้อยลง ปัจจัยหลักๆ ยังมาจากอุณหภูมิแตะ 40 องศาเซลเซียส ปรากฏการณ์เอลนีโญ จะทำให้ปริมาณฝนตกต่ำกว่าร้อยละ 20 ชลประทานต้องกักเก็บน้ำใช้ยามจำเป็น ทำให้เกษตรกรขาดแคลนน้ำทำการเกษตร พืชผลทางการเกษตรจะออกน้อย และที่มีอยู่บางส่วนก็จะแห้งตาย และไม่ได้คุณภาพตามที่ตลาดต้องการ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ยังพบว่าในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. สภาพอากาศแปรปรวน จะเป็นช่วงวิกฤตราคาพืช-ผัก ทะยานสูงขึ้น 10 - 15 บาท หรืออาจจะมากกว่านั้น หลักๆ เลยที่เตรียมพร้อมรับมือคือ มะนาว ถั่วฝักยาว ผักชี-ต้นหอม ผักกาดขาว ผักบุ้งจีน หรือแม้กระทั่ง พริก
วันเพ็ญ มีประเสริฐ เกษตรกรปลูกพริกกะเหรี่ยง ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มานานกว่า 6 ปี จำนวน 700 ต้น เผยว่า สถานการณ์เอลนีโญ ทำให้เกิดโรคแมลงศัตรูพืชเข้าทำลาย จนไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ ปัญหาคือดอกแห้ง ไม่ได้น้ำหนัก สีสันและรูปทรงไม่สวย ราคาที่พ่อค้าคนกลางรับซื้อลดลงไปร้อยละ 80 ขณะที่บางส่วนก็ตัดสินใจนำเข้าพริกจากประเทศเพื่อนบ้านแทน ทำให้กลุ่มเกษตรที่ปลูกพริกบางส่วนอาจมีแนวโน้มเลิกปลูกพริก เพราะไม่คุ้มกับต้นทุนทั้ง ค่าปุ๋ย และยาป้องกันศัตรูพืช
วัฒศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ข้อมูลว่า สภาพอากาศที่แปรปรวน ผลผลิตภาคการเกษตรจะลดน้อยลงช่วงเดือน เม.ย. ส่วนที่ขายในท้องตลาดก็จะปรับราคาสูงขึ้น ตามกลไกตลาด
ระหว่างช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. สิ่งที่ภาครัฐทำคือเข้าไปควบคุมราคากลไกของตลาด และนำสินค้าการเกษตรของที่เข้าร่วมโครงการกับกระทรวงพาณิชย์ ไปจำหน่ายให้กับประชาชนในช่วงหน้าร้อน พร้อมย้ำกลุ่มพ่อค้าคนกลางที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินควร มีโทษปรับ 14,000 บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวอื่น :