ตร.ส่งหมายเรียกรอบ 2 ไม่เจอ "บิ๊กโจ๊ก" ลางานถึง 1 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบทราบว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางไปกราบพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมกับนมัสการ พระครูภาวนาเจติยาภิบาล (ทวี มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุบังพวน และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด เพื่อเป็นสิริมงคล
สำหรับวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้ เป็นที่เคารพบูชาของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นอย่างมาก และเคยเดินทางมาแล้วหลายครั้ง
วัดพระธาตุบังพวน ตั้งอยู่ที่ 172 หมู่ 3 ต.พระธาตุบังพวน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ส่วนเจดีย์พระธาตุบังพวน เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลง อิฐดินเผา พ.ศ.2210 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
โบราณวัตถุภายในวัดพระธาตุบังพวน ได้แก่ พระพุทธรูปใหญ่ 1 องค์ พระปางนาคปรก 1 องค์ ศิลาจารึก 1 หลัก พระธาตุบังพวน พระปรางค์ 3 องค์ เจดีย์เล็ก 7 องค์
ตามปรากฏในตำนานอุรังคธาตุ ระบุว่า พระยาสุวรรณพิงคาน เจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร พระคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย อุดรธานี และพระยาจุลณีพรหมทัติ เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ แคว้นสิบสองจุไทย) พระยาอินทปัตถนคร เจ้าเมืองอินทปัตถนคร (เขมร) และพระยานันทเสน เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์หลวง
พระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย (ขอบคุณภาพจากเพจวัดพระธาตุบังพวน)
กษัตริย์ทั้ง 5 พระองค์ ทรงอุปถัมภ์พระมหกัสสปะเถระ พร้อมด้วย พระอรหันต์อีก 500 พระองค์ ก่อสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จแล้ว และได้บรรลุอรหันต์ในเวลาต่อมา กษัตริย์ทั้ง 5 พระองค์ จึงออกเดินทางไปอินเดีย เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ 45 องค์ มาประดิษฐานไว้ในสถานที่ 4 แห่ง ได้แก่
1.อัญเชิญพระธาตุหัวเหน่า 29 องค์ มาประดิษฐานไว้ที่พระธาตุบังพวน หรือภูเขาหลวง
2.อัญเชิญพระธาตุฝ่าพระบาทก้ำขวา 9 องค์ มาประดิษฐานไว้ที่เจดีย์พระธาตุกลางแม่น้ำโขง ณ เมืองหล้าหนองคาย
3.อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวฝาง 3 องค์ มาประดิษฐานไว้ที่พระธาตุโพนจิกเวียงงัว บ้านปะโค จังหวัดหนองคาย
4.อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวฝาง จำนวน 4 องค์ มาประดิษฐานไว้ที่เจดีย์พระธาตุหอผ้าหอแพ เมืองเวียงจันทร์
วัดพระธาตุบังพวน นอกจากมีองค์พระธาตุแล้ว ยังกลุ่มโบราณสถานที่เรียกว่า “สัตตมหาสถาน” ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา หมายถึงการจำลองสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ หลังจากตรัสรู้แล้ว จำนวน 7 แห่ง คือ โพธิบัลลังก์, อนิมมิสเจดีย์, รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์, อชาปาลนิโครธเจดีย์, มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์
มีความเชื่อกันว่า ในวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้ เป็นที่เดียวในโลก ที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่ง
ส่วนสถานที่เกี่ยวกับพญานาค คือ “สระมุจลินท์” หรือ “สระพญานาค” สระน้ำโบราณที่มีบันทึกในหนังสือใบลาน ที่เขียนเป็นภาษามคธ เรียกชื่อว่า “สระมังคละน้ำเที่ยงหมัน”
เมื่อครั้งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า บรรจุไว้ในองค์พระธาตุ ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาด มีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน พระมหาเทพหลวงและพระมหาเทพพล พระภิกษุที่ดูแลองค์พระธาตุ ได้สังเกตเห็นว่า มีสายน้ำพุ่งขึ้นมาตลอดเวลา จากปล่องภูพญานาคที่เฝ้ารักษาพระธาตุบังพวน
จึงได้ชักชวนญาติโยมขุดสระรองรับน้ำเอาไว้ และสร้างรูปปั้นพญานาค 7 เศียร ไว้กลางสระแห่งนี้ รูปแบบศิลปะแบบล้านช้าง ในสมัยพระเจ้าวิชลราช กษัตริย์ล้านช้างได้เสด็จมานมัสการพระธาตุ (ช่วงพ.ศ.2043-2063)
โปรดให้มีการปรับปรุงสระน้ำแห่งนี้ และนิมนต์พระคุณเจ้า จัดทำพิธีมหาพุทธาภิเษก สระมุจลินท์ถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และนำน้ำศักดิ์สิทธิแห่งนี้ไปใช้ในพิธีสำคัญในราชสำนักล้านช้างเป็นต้นมา
ต่อมา สมเด็จพระไชยเชษฐา (พ.ศ.2093–2115) กษัตริย์ล้านช้างได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระพุทธรูปนาคปรก 9 เศียร ไว้ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งเห็นได้ว่า ในยุคสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพญานาค มีให้เห็นได้ในทุกยุคทุกสมัย แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็ตาม
ปัจจุบัน “สระมุจลินท์” แห่งนี้ ถือเป็นสระน้ำสำคัญประจำจังหวัดหนองคาย น้ำในสระแห่งนี้ถูกนำไปใช้ในพิธีสรงมูรธาภิเษก พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ๆ เป็นประจำ
เชื่อกันว่า การได้ไหว้สักการะพระธาตุ อันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์นั้น จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ที่เคารพบูชา อีกทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ได้จากการกราบไหว้บูชา
การสร้างกุศลกับพระธาตุนั้น เชื่อว่าส่งผลแรงยิ่งนัก หากผู้ใดปฏิบัติบูชาด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ และหมั่นกราบไหว้บูชาตามกำลังความสามารถทุกครั้ง อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ จะดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลในชีวิตแก่ตัวผู้บูชา
อ่านข่าว : "บิ๊กต่าย" ยัน ตร.มีขั้วเดียว ปัดตอบ "บิ๊กโจ๊ก" ลางานยาวไป ตปท.
เปิดใจคุย “ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ใช้หลักธรรมครองตน ก็ครองคนได้
ขอบคุณข้อมูลจาก วัดพระธาตุบังพวน