ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“จักรภพ” กลับไทย แฝงความหมายสุดล้ำ

การเมือง
28 มี.ค. 67
15:59
350
Logo Thai PBS
“จักรภพ” กลับไทย แฝงความหมายสุดล้ำ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เป็นการกลับคืนประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี ของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช พร้อมคดีร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและอั้งยี่

จึงถูกตำรวจกองปราบปราม คุมตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังกองปราบปรามทันที เพื่อสอบปากคำตามขั้นตอน

เป็นการเดินทางกลับแบบปัจจุบันทันด่วน ไม่มีระแคะระคายล่วงหน้ามาก่อน เพิ่งจะโพสต์คลิปความยาว 5 นาที เปิดใจถึงสาเหตุตัดสินใจเดินทางกลับไทยว่าเพื่อมอบตัว ได้สู้คดี และออกมาสู่อิสรภาพ เพื่อทำงานรับใช้บ้านเมือง

ก่อนหน้านี้ นายจักรภพเคยถูกฟ้องร้องคดี ม.112 จากการปาฐกถาเป็นภาษาอังกฤษในหัวข้อเรื่อง “ระบบอุปถัมภ์ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นประชาธิปไตย” ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ประจำประเทศไทย ปี 50 ต่อมาอัยการสั่งยกฟ้อง เมื่อปี 2554

นายจักรภพเคยร่วมทำงานการเมืองกับนายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ได้เป็นโฆษกรัฐบาล ต่อมาหลังการเลือกตั้งปี 2548 ได้เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เมื่อเกิดรัฐประหารปี 49 เป็นหนึ่งในแกนนำเปิดเวทีปราศรัยต่อต้าน คมช. และร่วมก่อตั้ง แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ หรือ นปก. ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น นปช.

เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในแกนนำ นปช. ช่วงชิงการเป็นแกนนำมวลชนคนเสื้อแดง โดยเฉพาะกับกลุ่มนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายจักรภพ ได้จับมือร่วมกับ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือนายสุรชัย แซ่ด่าน แยกตัวออกมาตั้ง “กลุ่มแดงสยาม” ร่วมกัน ประกาศไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่ม นปช. อีกต่อไป

ในปี 2552 นายจักรภพต้องลี้ภัยการเมืองไปที่ประเทศกัมพูชา เช่นเดียวกับแนวร่วม นปช.และคนเสื้อแดงอีกหลายคน แต่หลังจากกลุ่มคนเหล่านี้ ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิทยุใต้ดินและสื่อออนไลน์ วิพากษ์และโจมตีรัฐบาล คสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

จึงปรากฏข่าวการประสานกับผู้นำรัฐบาล สมเด็จฮุนเซ็น เพื่อขอให้ส่งตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยในกัมพูชากลับประเทศไทย ความเคลื่อนไหวของนายจักรภพ ก็น้อยลงนับแต่นั้น และแกนนำส่วนหนึ่ง เคลื่อนย้ายจากกัมพูชา ไป สปป.ลาวแทน

ก่อนจะปรากฎคลิปภาพขอเดินทางกลับประเทศไทยของนายจักรภพ และให้สัมภาษณ์สื่อในเวลาต่อมา ภายหลังจากได้รับการประกันตัว ทั้งยอมรับว่า ก่อนตัดสินใจเดินทางกลับ ได้โทรศัพท์คุยกับนายทักษิณ 1 ครั้ง และได้ยินพูดคำสำคัญว่า “มีหลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้ว”

การกลับประเทศของนายจักรภพ ยังมีนัยส่งสัญญาณการเตรียมเดินทางกลับประเทศไทย ของอดีตแกนนำ และแนวร่วมมวลชนคนเสื้อแดงคนอื่น ๆ ที่จะตามมาอีกหลายคน นอกเหนือจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ข่าววงในอ้างว่า อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและกำหนดไทม์ไลน์ ซึ่งอาจเป็นช่วงปลายปีนี้

นายจักรภพเชื่อว่า การเดินทางกลับประเทศไทยครั้งนี้ ยังเป็นเหมือนหนูลองยา ที่จะทำให้อีกหลายคน มีความมั่นใจมากขึ้น รวมทั้งนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทย อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันเป็นเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า การกลับคืนประเทศไทยของนายจักรภพครั้งนี้ มีนัยในเชิงการเมืองมากกว่าที่เห็นและเป็นไป สะท้อนถึงอำนาจและบารมีของใครบางคนมีล้นเหลือเกินกว่าจะอธิบาย

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง