คะแนนเสียงท้วมท้นล้นหลามกับมติสภาที่เห็นชอบรายงานศึกษาผลกระทบการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร 253 : 0 ดูเหมือนว่า "กาสิโนถูกกฎหมาย" มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะผ่านฉลุยเหมือนมติ เพราะเกิดวิวาทะวุ่นวายกันพอสมควรในสภาฯ เมื่อ “พรรคก้าวไกล” เสนอนับองค์ประชุม เมื่อวันวานนี้ (28 มี.ค.)
“เสี่ยแด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่าในฐานะ สส.พรรคร่วมรัฐบาลว่า ตัวเขาสนับสนุนเต็มที่กับการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ
การที่ “ก้าวไกล” ขอนับองค์ประชุม แต่ไม่แสดงตน ทั้งที่นั่งอยู่ในห้องประชุม เหมือนจงใจตีตกรายงานนั้น เชื่อว่า “ก้าวไกล” น่าจะคาดคิดไว้ล่วงหน้าจึงใช้วิธีขอนับองค์ประชุม เพราะหวังว่าเสียงของรัฐบาลจะไม่เพียงพอ แต่กลับกันฝั่งรัฐบาล นั้นต้องการผลักดันสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนถูกกฎหมายให้เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ รายงานจึงผ่านสภาฯไปได้
การที่พรรคก้าวไกล ขอนับองค์ประชุม เพื่อหวังให้สภาฯล่ม ทั้งที่ได้ตกลงระหว่างวิป 2 ฝ่ายแล้ว จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นการเล่น แต่เกมการเมืองไม่มองถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศมาก่อน จึงขอเรียกร้องให้ สส.ก้าวไกล ทำการเมืองใหม่ให้สร้างสรรค์ตามที่ท่านพูด
ขณะที่ “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.ก้าวไกล ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ก็แถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวโดยบอกว่า การขอนับองค์ประชุมและขอลงมติไม่เห็นด้วยกับรายงาน เป็นเหตุผลในด้านเนื้อหา และ “ปกรณ์วุฒิ” ยังตั้งคำถามอีกว่า การไม่เห็นด้วยกับรายงานฉบับใดฉบับหนึ่งจะต้องนำไปสู่การขอเวลาคืนของการอภิปราย ม.152 อย่างนั้นหรือ
เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะพอ เมื่ออารมณ์เย็นลง คงไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นใช้กับเวทีตรวจสอบของฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุด รองจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฝ่ายรัฐบาลขอเวลาอภิปรายครึ่งหนึ่งของญัตติที่ฝ่ายค้านเอาไว้ตรวจสอบรัฐบาล เอาไปอภิปรายเอง แม้กระทั่งรัฐบาลที่เราบอกว่าสืบทอดอำนาจจาก คสช. ยังไม่ทำเลย
จบยกแรก เมื่อรายงานฉบับดังกล่าวผ่านการเห็นชอบของสภาฯ แม้ว่ามีมติเอกฉันท์ผ่านไปแล้ว แต่ก็ยังมีขั้นตอนต่อไป ที่จะส่งให้ ครม.พิจารณารายละเอียดต่อไป และกว่าที่ ร่าง พ.ร.บ.บัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ....จะมีผลบังคับใช้ก็ต้องรออีกพอสมควร
อ่านข่าว : "รังสิมันต์" ตั้ง 6 ข้อสังเกตปัญหา "สถานบันเทิงครบวงจร"
นอกจากนี้ "ก้าวไกล" ยังออกแขก "ตีปี๊บ" ให้ประชาชนเกาะติดขอบจอติดตามการซักฟอก ม.152 พร้อมแย้มว่า มีข้อมูลเพียบ และพร้อมในการอภิปรายอย่างมาก ล่าสุด มีผู้ยื่นเจตจำนงจะอภิปรายแล้ว จำนวน 34 คน โดยพรรคก้าวไกล ได้เวลาประมาณ 17 ชม.
พื้นที่กระสุนตกที่ “พรรคก้าวไกล” จะพุ่งเป้า คงหนีไม่พ้น “นายกฯนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง เป็นพิเศษ โดยเฉพาะสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้กับประชาชนผ่านมา 7 เดือนเห็นผลเป็นรูปธรรมมาก-น้อย แค่ไหน
ขณะที่ “ไฮไลต์” จะอยู่ที่ “สส.ใบพลู” นายรังสิมันต์ โรม และ “หมอเก่ง” นายวาโย อัศวรุ่งเรือง ที่ยังไม่เปิดเผยประเด็นการอภิปราย แต่คนในพรรคก้าวไกลบอกว่า “ดุเดือด” แน่นอน
รวมถึง ประเด็นสุดท้ายที่หลายคนรอดู คือ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีผู้นำมาอภิปรายหรือไม่ ซึ่งคนในพรรคก้าวไกลก็บอกว่า “รอดู”
โหมโรงความเดือดในสภาฯ ตั้งแต่สัปดาห์นี้ และติดตามรอดูการอภิปรายในสัปดาห์หน้าว่าจะร้อนแรงจนสมใจคอการเมืองที่รอดูหรือจะไม่มี “ลำหักลำโค่น” แผ่วปลายทำอะไรรัฐบาลไม่ได้หรือไม่
อ่านข่าว : ก้าวไกล วาง 34 สส.ซักฟอก พุ่งเป้า "เศรษฐา" จับตาประเด็น "ทักษิณ"
วันนี้ในแวดวงสีกากีก็ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอากาศ ล่าสุด “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ส่งทีมทนาย ยื่นฟ้อง “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ฐานหมิ่นประมาทฯ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ หลังถูกกล่าวหาว่ามีเส้นเงินเว็บพนันโยงถึงบุคคลใกล้ชิดของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ยังฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 5 ล้านบาท
ด้าน “อัจฉริยะ เรืองรัตนทรัพย์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเจ้าตัวรับมอบอำนาจทำหน้าที่แทน "บิ๊กต่อ" "อัจฉริยะ" ยืนยันว่า งานนี้ไม่ใช่การฟ้อง “แก้เกี้ยว” และไม่มีการ “เกี้ยะเซียะ" เพื่อยอมความกันอย่างแน่นอน เรื่องนี้จะยังเป็นมหากาพย์ที่ยังต้องติดตามกันต่อไป
อ่านข่าวอื่น ๆ :
เปิด 12 ธุรกิจ "สถานบันเทิงครบวงจร" ฝ่าฝืนโทษสูงสุดปรับ 5 แสน