แนวทางการสอบสวนเพิ่มเติมคดีของทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ต้องสอบพยานเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมถึงการประสาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงินในคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ของทนายตั้ม หลังตำรวจได้ยึดทรัพย์บ้านหรูและ บัญชีในธนาคารไว้เป็นการชั่วคราวดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะไปสอบถามเพิ่มเติมกับ พลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ผู้เสียหายที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการทำคดีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ยังออกมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นแม่เด็กที่ถูกกระสุนพลาดยิงใส่เสียชีวิต เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตั้งข้อสังเกตว่า เกือบไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้เสียหายเล่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 58 มีเหตุยิงปืนใส่บ้านหลังหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ช่วงกลางดึก แล้วกระสุนปืนเกิดพลาดทะลุข้างฝาบ้านเข้ามาถูกลูกชาย อายุ 8 ปี ที่กำลังนอนหลับอยู่จนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุทนายตั้มเดินทางพร้อมคนสนิท แจ้งว่าจะช่วยพูดเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุรับสารภาพ เพราะเห็นใจครอบครัวผู้สูญเสีย แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลกับทนายตั้ม เพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายของคนสนิทที่เดินทางมาพร้อมทนายตั้ม คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกผู้ก่อเหตุ แต่ยกฟ้องในชั้นศาลอุทธรณ์ แม่ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกี่ยวข้องกับการทำคดีของทนายตั้มหรือไม่
วานนี้ (8 พ.ย. 67) พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม นำตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญา และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับศาลอาญา มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและความเสียหายมีมูลค่าสูง หากผู้ต้องหาที่ 1 และที่ 2 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ศาลอาญา พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดี ให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ภาพลักษณ์ของ “ทนายความ” ที่หลายครั้งไม่ใช่เป็นเพียงตัวแทนทางกฎหมาย แต่ยังรับบทบาทนักร้องเรียนผ่านสื่อ รวมถึงให้ความรู้ ตอบข้อซักถามในรายการต่าง ๆ จนกลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นายกสภาทนายความ ตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นวิธีการที่ทำให้คดีกลายเป็นที่สนใจของประชาชน คือ คดีดัง-ทนายก็พลอยดังไปด้วย
"ทนายตั้ม" หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้าสู่วงการทนาย ตั้งแต่ปี 2547 เริ่มจากการเป็นทนายที่ให้คำแนะนำชาวบ้าน กระทั่งสร้างทีมชื่อ "ทีมทนายประชาชน" ทำงานในลักษณะอาสาช่วยสังคม ซึ่งเส้นทางตลอดช่วง 10 ปี มานี้ มีคดีหลายคดีที่ทำให้ตัวเขา ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะตัวปัจจัยใด เขากลายเป็นทนายความคนหนึ่งที่สื่อมวลชนและสังคมให้ความสนใจ
กรณี #ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ถูกตำรวจควบคุมตัว เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะนี่คือทนายคนดังที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเสียเอง และทำให้หลายคนเชื่อมโยงกับคดีดัง อย่างคดีดิไอคอนกรุ๊ป เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเรียกตบทรัพย์ 2 คดีนี้เชื่อมโยงกันหรือไม่ วิเคราะห์กับ ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
"ทนายตั้ม" หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้าสู่วงการทนาย ตั้งแต่ปี 2547 เริ่มจากการเป็นทนายที่ให้คำแนะนำชาวบ้าน กระทั่งสร้างทีมชื่อ "ทีมทนายประชาชน" ทำงานในลักษณะอาสาช่วยสังคม ซึ่งเส้นทางตลอดช่วง 10 ปี มานี้ มีคดีหลายคดีที่ทำให้ตัวเขา ได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก
นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมภรรยา ถูกตำรวจควบคุมตัวตามหมายจับ ในคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน โดยตำรวจตามสกัดจับตัวได้ ในขณะกำลังเดินทางเข้าจังหวัดฉะเชิงเทรา คดีนี้ เป็นกรณีนางสาวจตุพร หรือ เจ๊อ้อย ได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความ กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ว่า ถูกนายษิทรา ฉ้อโกงเงิน ที่ร่วมลงทุนธุรกิจสลากกินแบ่งรัฐบาล ไป 71 ล้าน รวมถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่โอนผ่านบัญชีดิจิทัล และ เรื่องสินทรัพย์รถยนต์อีกจำนวนหนึ่ง
วันแรกที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เข้าพบพนักงานสอบสวน ที่ กองบังคับการปราบปราม ซึ่งเป็นการเข้าพบด้วยตัวเอง นับตั้งแต่ถูกนางสาวจตุพร หรือ เจ๊อ้อย กล่าวหาว่า ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท โดยเจ้าตัวยืนยันว่า มีหลักฐานยืนยันการได้มาของเงิน 71 ล้าน ว่า ได้มาโดยเสน่หา ไม่ได้ฉ้อโกง