วันนี้ (20 เม.ย.2567) แม่และน้องสาวของหญิงสาวอายุ 31 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกสาวอยู่กินกับสามีชาวบาห์เรน ที่ประเทศบาห์เรน ขาดการติดต่อไปนาน 1 ปี จนเมื่อ 2 วันก่อน ได้รับแจ้งจากสถานทูตว่า ลูกสาวเสียชีวิตศพถูกเก็บไว้นาน 1 ปี ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิต มาจากปอดและหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เนื่องจากแอลกอฮอล์เป็นพิษ โดยเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.2566
ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิตยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะเห็นในรูปถ่ายของศพมีรอยช้ำตามตัว และก่อนที่ลูกสาวจะหายไปเคยส่งรูปบาดแผลฟกช้ำตามตัวมาให้แม่และน้องดู พร้อมบอกว่า ถูกสามีชาวบาห์เรนทำร้ายบ่อยครั้ง แม่จึงคาดว่าการเสียชีวิตของลูกสาวอาจมีเงื่อนงำ หรืออาจจะถูกสามีทำร้ายจนเสียชีวิต ขอช่วยนำศพลูกสาวกลับไทยส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง
แม่ของผู้เสียชีวิตยังเล่าว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.2566 ลูกสาวโพสต์เฟซบุ๊กทำนองตลกขำๆ ว่า "อุ้ย ตื่นมาหน้าแก่จัง" ซึ่งแม่ก็ไม่คิดว่าโพสต์นั้นจะเป็นโพสต์สุดท้าย แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกได้อีก ส่งแชตข้อความไปก็ไม่มีการเปิดอ่าน และไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากลูกสาวอีกเลย
กระทั่งเดือน ม.ค.2567 ได้ติดต่อไปยังสถานทูตไทย ขอให้ช่วยประกาศตามหา กระทั่งวันที่ 18 เม.ย.2567 ครอบครัวได้รับการติดต่อจากสถานทูตดังกล่าว
หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสานอธิบดีกรมการกงสุล และผู้อำนวยการกองคุ้มครองดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างแดน ประสานสถานทูตไทยในบาห์เรนส่งศพกลับไทย ประชาสัมพันธ์กลุ่มคนไทยในบาห์เรนช่วยบริจาคเงิน และเตรียมประสานสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ในการส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตเพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรมต่อไป
อ่านข่าวอื่น ๆ :
เด็กป่วย 60 คนหลังเล่นสงกรานต์ปาร์ตี้โฟม คาดติดเชื้อไวรัสโรต้า
"ทวี ไกรคุปต์" อดีตนักการเมือง พ่อ "เอ๋ ปารีณา" เสียชีวิต วัย 85 ปี