- เตือน 26 จว. เหนือ ตะวันออก ใต้ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน 18-25 พ.ค.
- "ไขมัน" ถ้าเลือกกิน ยังไงก็ไม่อ้วนแถมได้สุขภาพดีอีกด้วย
ฝนที่ตกกระหน่ำทั่วประเทศช่วงนี้ อีก 1 ปัญหาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้คือการเดินลุยน้ำที่รอการระบาย ซึ่งอาจนำมาด้วย "โรคน้ำกัดเท้า" ซึ่งถือเป็นโรคที่ประชาชนไม่ควรละเลย และควรมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่างๆ ที่จะตามมาได้ ข้อมูลจาก รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า น้ำกัดเท้า หมายถึงภาวะที่ผิวหนังบริเวณเท้าเปื่อยลอก มักเกิดจากการแช่ในน้ำเป็นเวลานาน
ภาพประกอบข่าว
อาการของโรคน้ำกัดเท้าแยก
- ระยะที่ 1 ช่วง 1- 3 วันแรก ผิวหนังเปื่อยเมื่อแช่น้ำ ผิวหนังแดงคัน แสบ ผิวหนังระคายเคือง และลอกบาง ๆ
- ระยะที่ 2 ช่วง 3 – 10 วัน อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรีย ติดเชื้อรา ผิวหนังจะเปื่อยมีรอยฉีกขาด มีอาการแดง บวม ปวดเจ็บ มีหนอง หรือน้ำเหลืองซึม เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่มากกว่าเชื้อรา
- ระยะที่ 3 ช่วง 10 – 20 วัน ถ้าแช่น้ำต่อเนื่อง ผิวหนังแดง คันมีขุยขาว เปียก เหม็น ผิวหนังจะเปื่อยเป็นสีขาว เป็นขุยหรือลอกบางเป็นสีแดง ผื่นเปียกเหม็น เป็นการติดเชื้อรา
ภาพประกอบข่าว
การป้องกันตัวเองจากโรคน้ำกัดเท้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำบ่อยๆ หากจำเป็นต้องแช่น้ำเป็นเวลานานหรือเดินย่ำน้ำ ควรสวมรองเท้าที่กันน้ำได้
- รีบเช็ดเท้าให้แห้งทุกครั้งหลังเท้าเปียก โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้า และหลีกเลี่ยงการใส่รองเท้าที่อากาศระบายยาก ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- รักษาความสะอาดของเท้าอยู่เสมอ โดยการล้างเท้าและฟอกสบู่ และทาครีมให้ความชุ่มชื้นทุกครั้ง ควรตัดเล็บให้สั้น
- ในกรณีที่มีเหงื่อออกมากบริเวณฝ่าเท้า อาจใช้แป้งโรยเล็กน้อยหรือยาทาลดเหงื่อ เพื่อให้ช่วยดูดซับเหงื่อส่วนเกิน
- หากเกิดบาดแผล ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสของแผลกับน้ำขังและรีบรักษาให้หายโดยเร็ว
- ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติของผิวหนังบริเวณเท้า
ภาพประกอบข่าว
การรักษาโรคน้ำกัดเท้า
- ถ้ามีผื่นแดงเล็กน้อย คัน ควรทายากลุ่มสเตียรอยด์
- ถ้ามีผื่น และมีรอยเปื่อยฉีกขาดของผิว มีอาการบวมแดง ปวดเจ็บ หรือมีหนองเป็นอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงขึ้น ควรพบแพทย์
- ถ้าเท้าแช่น้ำนานหลายสัปดาห์ต่อเนื่องหรือนิ้วเท้าเกย หรือชิดกันมากทำให้อาจติดเชื้อราที่ง่ามนิ้วเท้าเกิดเป็นผื่นขุยเปียกขาว ควรใช้ยาทารักษาเชื้อรา
- ถ้ามีบาดแผลควรทำแผลและทายาฆ่าเชื้อโรค เช่น เบตาดีน
- ระวังการตัดเล็บเท้าเพราะอาจเกิดบาดแผลเป็นทางเข้าของเชื้อโรค
ภาพประกอบข่าว
นอกจากนั้น พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า ถ้าอยู่ใกล้แหล่งอุตสาหกรรม ระวังน้ำปนเปื้อนสารเคมี ระวังไฟฟ้าดูด รับประทานอาหารและดื่มน้ำที่สะอาด สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ระวังแมลงกัด และระวังโรคระบาดที่มากับน้ำท่วม เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคไข้เลือดออก
อ่านข่าวเพิ่ม :
สภาพอากาศวันนี้ อีสาน-ตะวันออกฝนตกหนัก กทม.เจอฝน 40%
อ่วม! ฝนถล่มกทม.น้ำท่วม ต้นไม้หักคาถนนวิทยุทับรถยนต์ 2 คัน
ที่มา : รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, สสส.