เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2567 สำนักงานอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เปิดเผยว่า ได้ขอหมายจับบุคคล 5 คนที่เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
สำหรับทั้ง 5 คน ได้แก่ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล, โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล, ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำฮามาสในกาซา, อิสมาอิส ฮานิเยห์ หัวหน้าฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส และโมฮัมเหม็ด อัล-มาซรี หรือเดฟ ผู้บัญชาการกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส
ท่าทีของ ICC ทำให้เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ระบุว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นการจงใจประสงค์ร้ายต่ออิสราเอลในภาพรวม และปฏิเสธข้อกล่าวหา รวมทั้งระบุว่า รู้สึกขยะแขยงที่อัยการนำคนในระบอบประชาธิปไตยของอิสราเอลไปเปรียบเทียบกับฆาตกรสังหารหมู่ของกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นการบิดเบือนความจริงไปอย่างสิ้นเชิง
สหรัฐฯ วิพากษ์ ICC พิจารณาออกหมายจับผู้นำอิสราเอล
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา วิจารณ์การขอหมายจับผู้นำอิสราเอลว่าเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ ขณะที่แอนโทนี บลิงเคน ระบุว่า ท่าทีดังกล่าวอาจกระทบการเจรจาหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน
ด้านองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PLO) ระบุว่า ศาลโลกไม่ควรใช้ 2 มาตรฐานกับอิสราเอล สื่อถึงการเดินหน้าดำเนินคดีอิสราเอลที่ล่าช้ากว่ากรณีอื่นๆ ที่เคยเกิดขึ้นทั่วโลก ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปได้ว่า ICC อาจเดินหน้าออกหมายจับบุคคลอื่นๆ อีกในอนาคต
คณะผู้พิพากษาจะพิจารณาว่า หลักฐานที่อัยการนำเสนอเพียงพอและเหมาะสมต่อการออกหมายจับหรือไม่ แต่ ICC ไม่มีช่องทางบังคับใช้หรืออำนาจจับกุมตามหมายศาลดังกล่าวโดยตรง เว้นแต่เมื่อบุคคลที่มีหมายจับเดินทางไปยังประเทศที่ให้สัตยาบันกับ ICC จะนำตัวบุคคลในหมายจับส่งให้
และการสอบสวนกรณีการก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในเขตกาซายังไม่ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอล
อ่านข่าว