วันที่ 30 พ.ค.2567 โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปลายปีนี้ กล่าวโจมตีคำตัดสินของคณะลูกขุน ว่าเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและเสื่อมเสีย พร้อมยืนกรานว่าไม่ได้กระทำความผิด และจะต่อสู้เพื่อประเทศ เพื่อรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาต่อไป
นอกจากนี้ อดีตผู้นำสหรัฐอเมริกา กล่าวหาว่า คดีนี้มีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบันชักใยอยู่เบื้องหลัง เพื่อทำร้ายคู่แข่งทางการเมือง และระบุว่าสหรัฐอเมริกาไม่เหมือนเดิม ทั้งเกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย มีปัญหาถดถอยหลายประการ แต่ยืนยันจะต่อสู้จนจบ โดยทรัมป์ ระบุด้วยว่า คำพิพากษาที่แท้จริงโดยประชาชนชาวอเมริกันจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.นี้ และคดีความนี้ยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดง่ายๆ
ท่าทีของทรัมป์มีขึ้นหลังคณะลูกขุนในนิวยอร์ก ตัดสินว่า อดีตผู้นำสหรัฐอเมริกากระทำผิดจริงฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ เพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปาก สตอร์มี แดเนียลส์ นักแสดงภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ ไม่ให้เปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ซึ่งถือว่าเป็นการจงใจปกปิดความผิด ที่ขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งและข้อกำหนดด้านภาษีทั้งระดับรัฐและของรัฐบาลกลาง เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016
ก่อนหน้านี้ ศาลนิวยอร์กสืบพยาน 22 ปาก นานกว่า 6 สัปดาห์ และหลังการพิจารณาวันแรกที่ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อสรุป คณะลูกขุนสรุปผลการพิจารณาในวันที่ 2 ว่า ทรัมป์กระทำผิดจริงทั้ง 34 กระทง โดยแต่ละกระทงแบ่งตามเอกสารแต่ละส่วนที่อัยการกล่าวหาว่าผ่านการปลอมแปลงเพื่อปกปิด
ความผิดในคดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ หรือเป็นความผิดอาญาร้ายแรง ซึ่งฐานความผิดเหล่านี้มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี โดยฮวน เมอร์ชาน ผู้พิพากษาคดีนี้กำหนดวันตัดสินโทษไว้ในวันที่ 11 ก.ค. หรือ 4 วันก่อนหน้าการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งจะประกาศชื่อตัวแทนพรรคลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ
ขณะที่หลายฝ่ายประเมินว่า ทรัมป์อาจจะแค่ต้องโทษปรับ เนื่องจากหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น ทรัมป์ไม่เคยมีประวัติคดีอาญา และอายุมากถึง 77 ปีแล้ว แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นกับการพิจารณาโทษของผู้พิพากษาต่อไป โดยนักวิเคราะห์ มองว่า ผลคำตัดสินคดีนี้อาจจะไม่ได้ส่งผลต่อคะแนนนิยมของทรัมป์ในการเลือกตั้งปลายปีนี้มากนัก
อ่านข่าวอื่น :