“โฮก” เสียงทักทายแรก ข่มขวัญทีมเจ้าหน้าที่ชุดติดตาม “เสือโคร่ง” ทำอะดรีนาลีนหลั่ง กระจัดกระจายคนละทาง บางคนปีนขึ้นต้นไม้ บางคนหาที่กำบัง แม้ภายนอกจะดูอ่อนล้าโรยแรง ร่างกายซูบผอม และบาดเจ็บ แต่สัตว์ผู้ล่าย่อมต้องไว้ลายเสือ
"อังสนา มองทรัพย์" หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เล่าถึงวินาทีที่ได้เสียงคำรามไม่รู้ทิศทางดังขึ้นกลางป่ามะขามและป่าไผ่ เนื้อที่ 30 ไร่ ท้ายหมู่บ้านกระเหรี่ยงน้ำตก อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร ขณะนั้นเธอยังอยู่ที่พื้นด้านล่าง เพราะปีนขึ้นต้นไม้ไม่ทันคนอื่น ๆ พร้อมสบตากับ "พิมพ์ชนก สรงมงคล" หรือหมอพิมพ์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ หันซ้ายหันขวา ถามถึงพิกัดเสียงว่าอยู่จุดใด
![ผู้เชี่ยวชาญและค้นหาเสือโคร่งหลุดเข้ามาในชุมชน](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwcEPFpXE5uDOZXu.jpg)
ผู้เชี่ยวชาญและค้นหาเสือโคร่งหลุดเข้ามาในชุมชน
ผู้เชี่ยวชาญและค้นหาเสือโคร่งหลุดเข้ามาในชุมชน
ดร.อัจฉรา ซิ้มเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ผู้ใจดีสู้เสือ ก้าวเป็นแถวหน้าตรวจสอบที่มาเสียง พร้อม ๆ กับ "หมอพิมพ์" มือยิง ปีนขึ้นต้นมะขามหาตำแหน่งเล็ง รอรับสัญญาณยิงยาสลบ แต่เจ้าเสือเหมือนรู้ทัน พริบตาเดียวกระโจนหลบทางปืนยิงยา หนีไปได้
ปฏิบัติการค้นหาวันที่ 2 (17 ก.พ.2567) หลังเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุเสือโคร่งออกนอกพื้นที่ เข้ามาในหมู่บ้านกระเหรี่ยงน้ำตก ในช่วงเย็นของวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา นำไปสู่การระดมทีมทั้งสัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 เจ้าหน้าที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า เจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ หัวหน้าสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ และ WWF ประเทศไทย เข้าพื้นที่ประเมินสถานการณ์ พร้อมจัดชุดเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติคลองลาน 60 คน เฝ้าระวังและควบคุมพื้นที่ตลอดเวลา
เขาผอม เดินตุปัดตุเป๋ ขาไขว้ ๆ กัน คืนวันที่ 18 เราคาดหวังว่าจะจับได้ขณะเขาเดินบนถนน พยายามแจ้งชาวบ้านไม่ให้ออกมา ปฏิบัติการค่อนข้างยุ่งยาก
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwb6rA1gI8hBiuN8.jpg)
ทีมเจ้าหน้าที่ยังเฝ้ารอ กระทั่งเวลา 21.50 น. วันที่ 19 ก.พ.2567 เสือโคร่งตัวดังกล่าวมากินเหยื่อเป็นหมูที่ล่าทิ้งไว้ แล้วติดกับดักที่ขา ทีมที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้จึงยิงยาสลบ ก่อนเคลื่อนย้ายมายังสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ทำการตรวจสอบสุขภาพ พบว่า เป็นเสือโคร่งอายุ 2-3 ปี น้ำหนัก 105 กิโลกรัม สภาพผอมและตาซ้ายบอด ต่อมานำขึ้นรถไปรักษาและฟื้นฟูร่างกายที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง
โจทย์ของเราคือต้องฟื้นฟูร่างกายให้เขาแข็งแรง และคืนสู่ป่าโดยเร็วที่สุด
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEh6ZAyUD6wXVv9.jpg)
เสือโคร่งบาดเจ็บ ถูกตั้งชื่อว่า "บะลาโกล" ภาษากะเหรี่ยง แปลว่า "คลองลาน" ตามผืนป่าถิ่นอาศัย
หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เลือกกรงที่ค่อนข้างกว้างปกคลุมสแลน ให้บะลาโกลได้ฟื้นฟูร่างกายในบ้านใหม่ชั่วคราว ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้ากึ่งธรรมชาติมากที่สุด และบ่อน้ำเล็ก ๆ คลายร้อน หวังลดความเครียดของตัวสัตว์ แต่ยังกังวลถึงค่าใช้จ่ายอาหารค่อนข้างสูง ซึ่งได้ขออนุเคราะห์ค่าอาหารจากส่วนกลาง และโชคดีที่ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากแฟนคลับเพจเฟซบุ๊ก Thailand Tiger Project DNP ในการซื้อเหยื่อฝึกพฤติกรรมการล่า คงสัญชาตญาณสัตว์ป่า รอวันกลับบ้านหลังใหญ่
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwb834f69U4Atp7T.jpg)
เมื่อจับได้แล้ว รู้สึกกังวลว่าจะต้องดูแลเสือโคร่งป่าในกรงเลี้ยงอีกนานเพียงใด รวมถึงภาระค่าอาหาร
มื้อแรกของบะลาโกลในสถานที่ใหม่ แฟนคลับสนับสนุนขาแกะออสเตรเลีย ต่อมากินอาหารน้ำหนักประมาณ 49 กิโลกรัมต่อ 2 วัน ทั้งเก้ง กวาง เนื้อทราย ละอง ละมั่ง วัวแดง ที่ตายจากอุบัติเหตุ หรือคลอดแล้วตาย เน้นสัตว์ที่ยังไม่ได้รับยาปฏิชีวนะ และไม่เป็นโรคติดต่อในสัตว์
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEaWj1jfGlL8sfg.jpg)
หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มองว่าบะลาโกลน่าจะฟื้นฟูร่างกายจนแข็งแรงและคืนสูป่า ภายใน 1-2 เดือน แต่เพียง 2 สัปดาห์แรกก็ได้รับทราบข่าวความผิดปกติของดวงตาที่เสี่ยงอักเสบติดเชื้อลุกลามไปอีกข้างหนึ่ง สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตา สัตวแพทย์ สบอ.12 และทีมนักวิจัย ปรึกษาชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย และความกังวลว่าเสือจะอยู่ที่นี่นานขึ้นจนสูญเสียสัญชาตญาณสัตว์ป่าหรือไม่
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwb5nTrPwsPYFZ3U.jpg)
สุดท้ายทีมงานตัดสินใจรักษาด้วยการควักลูกตาข้างที่บอด เนื่องจากภายในมีของเหลวและก้อนเนื้อ หากปล่อยไว้เสือจะมีความเจ็บปวด และเสี่ยงลุกลามไปยังตาอีกข้างหนึ่ง ซึ่งการวางยาสลบในครั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบเพศอีกครั้ง พบว่าบะลาโกล เป็นตัวผู้ จากก่อนหน้านี้ที่ระบุเพศได้ไม่ชัด และคิดว่าเป็นตัวเมีย เพราะร่างกายผอม ยังไม่เห็นอัณฑะชัดเจน อีกทั้งข้อมูลของ WWF ที่สำรวจเสือโคร่งคลองลาน-แม่วงก์ พบว่าภาพถ่ายแม่ของบะลาโกลที่มีลูก 2 ตัว และใช้พื้นที่ป่าบริเวณขุนน้ำเย็น
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEX2wkn2veneQOP.jpg)
ใช้เวลาพักฟื้นบาดแผลไม่นานนัก หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ให้คำนิยามบะลาโกล ว่า "นักล่า" เพราะเฟดตัวจากแม่มาหากินเองด้วยวัยเพียง 2 ปี ต้องแย่งพื้นที่หากินกับเสือตัวผู้ตัวอื่น ๆ อีกทั้งเมื่อรักษาจนอาการดีขึ้น พบว่าบะลาโกลมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ส่งเสียงคำราม "โฮก" และวิ่งเข้ามาเมื่อเห็นคน ก่อนถอยกลับไป ส่วนมุมชิล ๆ บะลาโกลมักแช่น้ำเมื่อไม่รู้สึกกดดัน หรือมองเห็นคน
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwcDT9tAOWBNUBiA.jpg)
นักล่า "บะลาโกล" ฝึกพฤติกรรมการล่า จ้อง-คลานย่อง-ตะปบ-ลากเหยื่อ เคลียร์เหยื่อจบภายใน 30 นาที และค่อย ๆ ลดเวลาแต่ละครั้ง จนเหลือไม่เกิน 10 นาที โดยกินเหยื่อน้ำหนัก 20 กิโลกรัมต่อ 3 วัน สะท้อนสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่เต็มเปี่ยม
เราสังเกตเห็นสัญชาตญาณการล่าของเขาที่มีเต็มเปี่ยม ไม่มีข้อห่วงใยว่าจะล่าไม่ได้ หรือสายตามีปัญหา คอนเฟิร์มแล้วว่าเมื่อสมบูรณ์ก็ปล่อยได้แล้ว
เมื่อทราบข่าวว่า บะลาโกลจะได้กลับคืนป่า "รู้สึกดีใจแทนน้อง" และดีใจกับตัวเองว่าสิ่งที่ฟูมฟักด้วยกันมาสำเร็จแล้ว
สำหรับสถานที่ปล่อยนั้น มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) โดยเลือกอุทยานฯ ทับลาน เนื่องจากฐานข้อมูลการสำรวจติดตามประชากรเสือโคร่งรายปีในพื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ พบว่าพื้นที่บางส่วนยังไม่มีเสือโคร่งยึดเป็นพื้นที่หากิน มีความเหมาะสมต่อตัวสัตว์ ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศ และมีขนาดพื้นที่เพียงพอรองรับเสือโคร่ง
![](https://news.thaipbs.or.th/media/TSNBg3wSBdng7ijMhT8mAjZzZ84dwb4qpddZ9MBmtnP.jpg)
หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขอบคุณทุกหน่วยงานและทุกคนที่ร่วมในภารกิจครั้งสำคัญ โดยเฉพาะแฟนคลับจากเพจ Thailand Tiger Project DNP ที่สนับสนุนกันอย่างต่อเนื่อง และฝากประชาชนช่วยสนับสนุนค่าดูแลสัตว์ป่าพลัดหลง สัตว์ป่าบาดเจ็บ และสัตว์ป่าของกลางที่ไม่สามารถคืนสู่ป่าได้ ผ่านโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEfPiJzZyBOHbR1.jpg)
18.30 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.2567 เริ่มปฏิบัติการเตรียมความพร้อมต่าง ๆ และวางยาสลบในเวลา 20.00 น. ใช้เวลาทำงานอย่างรวดเร็วที่สุด ประมาณ 40 นาที ทั้งตรวจสุขภาพ วัดขนาดตัว ชั่งน้ำหนัก 113 กิโลกรัม ติดปลอกคอวิทยุสัญญาณดาวเทียมก่อนเคลื่อนย้าย เพื่อติดตามเส้นทางการดำรงชีวิตของบะลาโกลในพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน
จากนั้นตั้งขบวนรถ 5 คัน คันที่ 2 เป็น "บะลาโกล" ก่อนเคลื่อนออกจากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ในเวลา 21.00 น. ระหว่างทางแวะพักบริเวณสวนพฤกษศาสตร์พุแค จ.สระบุรี
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEbtOKnlRVwiczM.jpg)
ถึงจุดปล่อยอุทยานฯ ทับลาน เวลา 03.00 น. ซึ่งเป็นจุดที่ห่างไกลชุมชนมาก ก่อนเดินเข้าไปยังจุดปล่อย ซึ่งก่อนหน้านี้มีรถขนเหยื่อเป็นขาแกะออสเตรเลีย และขาวัวแดง น้ำหนักรวม 55 กิโลกรัม ไปเตรียมพร้อมไว้แล้ว
เวลา 04.30 น. วันนี้ (6 มิ.ย.2567) บะลาโกลคำรามเสียงดัง พร้อมขยับตัวโครมครามในกรงหลังรถเคลื่อนย้าย เหมือนจะบอกทุกคนให้รู้ว่า "พร้อมแล้ว" เมื่อรถอีกคันดึงรอกเปิดประตูกรง นักล่าก็กระโจนจากกรงหายเข้าป่าใหญ่อย่างไม่ลังเล
![](https://news.thaipbs.or.th/media/BRpLwT0TYaGXOF4tVvkeQ6WOoTRfM8DEe4xg7bwUhAq4L.jpg)
หัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง หวังว่าจากนี้ "บะลาโกล" จะได้ใช้ชีวิตตามวิถีเสือในผืนป่าสมบูรณ์ กระจายความหลากหลายทางพันธุกรรมจากป่าตะวันตก สู่บ้านหลังใหม่ "ทับลาน"
บะลาโกลแข็งแรงจนเรายิ้มได้ เขาน่าจะรอดแน่ ๆ
อ่านข่าว
ติดกล้องดัก "เสือโคร่ง" ห่วงย้อนกินเหยื่อ-รอยตีนมุ่งป่าคลองลาน
จับได้แล้ว "เสือโคร่ง" ที่คลองลาน จนท.อุทยานฯ ดูแลฟื้นฟู
“บะลาโกล” เสือโคร่งคลองลาน ผอม-ตาบอด เร่งฟื้นฟู 3 เดือน
ควักลูกตาเสือโคร่ง "บะลาโกล" หมอยืนยันความเป็นนักล่ายังเต็มเปี่ยม