ซัดเต็ม “คนบ้านป่า” พรรคร่วมสะเทือน

การเมือง
10 มิ.ย. 67
15:37
752
Logo Thai PBS
ซัดเต็ม “คนบ้านป่า” พรรคร่วมสะเทือน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การโพล่งชื่อ “คนในป่า” เป็นผู้สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง ของทักษิณ ชินวัตร ในช่วงจังหวะที่เจ้าตัวต้องลุ้นว่า จะได้ประกันตัวคดีมาตรา 112 วันที่ 18 มิ.ย.หรือไม่ ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจน ว่า ความอึมครึมทางการเมือง และหวังจะล้มรัฐบาลนายเศรษฐา

แม้จะมีอย่างน้อย 2 กลุ่มใหญ่ มีชื่อไปปรากฎใน 40 สว.ที่ยื่นคำร้องสอยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และเกินกว่ากึ่งหนึ่งโหวตเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ

แต่นายทักษิณกลับเจาะจงเอ่ยชื่อฟาดใส่ “คนในป่า” อย่างไม่อ้อมค้อม เสมือนจงใจตอกย้ำข่าว “กลุ่มอำนาจเก่า” พยายามพลิกเกมหวัง ให้การเมืองเปลี่ยนแปลงถึงขั้นเปลี่ยนตัวนายกฯ ให้มีน้ำหนักมากขึ้น

สอดคล้องกับการเปิดประเด็น “3 ล้ม” คือล้มรัฐบาล ล้มเลือก สว. และยุบพรรคก้าวไกล ของ สว.คนดังฝีปากกล้าอย่างนายวันชัย สอนสิริ

ขณะที่ มิถุนายน 2567 ถือเป็น “เดือนเดือด” ทางการเมือง มีทั้งเรื่องยุบพรรคก้าวไกล เรื่องอัยการนัดนายทักษิณ 18 มิถุนายน เพื่อส่งฟ้องศาลคดี ม.112 เรื่องเดทไลน์ส่งเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญของนายเศรษฐา และยังเป็นเดือนเลือก สว. ที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนวุ่นวายสับสน

ยังไม่รวมเรื่องคณะกรรมาธิการวิสามัญ จัดทำร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล จากพรรคเพื่อไทยเป็นประธาน ที่ผู้คนกำลังลุ้นว่า กรรมาธิการภายใต้เสียงข้างมากของพรรคเพื่อไทย จะรวมคดีมาตรา 112 พ่วงเข้าไปด้วยหรือไม่ และจะพ่วงโดยรูปแบบใด กำหนดในกฎหมาย หรือใช้รูปแบบคณะกรรมการนิรโทษ

ทำให้กระแส “3 ล้ม” ถูกหยิบขึ้นมาวิพากษ์และเป็นประเด็นร้อนทั้งบนหน้าสื่อและเวทีสภากาแฟโดยทั่วไป ว่าจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญเพื่อล้มรัฐบาล แม้ว่าในมุมของนายสมชาย แสวงการ สว.เจ้าของคำร้องยื่นสอบนายเศรษฐา จะแย้งกลับว่า ถูกจุดจาก สว. เพียงคนเดียว แต่ สว.อีก 149 คน กลับไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องนี้

ทั้งย้ำว่า การยื่นคำร้องของ 40 สว.เป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนฝ่ายค้าน ที่ขณะนี้นั่งรอวันเข้าร่วมรัฐบาลแทนที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบ

เป็นการพุ่งเป้าเข้าใส่พรรคก้าวไกลโดยตรง หลังมีเสียงวิพากษ์จะมีสมการทางการเมืองจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาลของ 2 พรรคเพื่อไทยกับก้าวไกล แต่ต้องเจอ ”ตอใหญ่” เรื่องพรรคก้าวไกลจะโดนยุบพรรครออยู่เบื้องหน้า

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะยืนยันล่าสุดเมื่อ 9 มิถุนายน ถึงจุดยืนเดิมของพรรคร่วมทุกพรรค เรื่องมาตรา 112 และกฎหมายนิรโทษกรรม ต้องไม่รวมคดีมาตรา 112 พ่วงเข้าไปด้วย

ส่อแนวโน้มจะก่อให้เกิดความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล หากพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าเปิดช่องให้มี คดีม.112 อยู่ในข่ายได้รับการนิรโทษ ไม่ว่าจะโดยรูปแบบใด หลังจาก”นายใหญ่”โดนคดีนี้เอง

แม้เจ้าตัวจะทำใจดีสู้เสือ ยันยันจะไปพบอัยการตามกำหนด 18 มิถุนายน เชื่อว่าไม่มีอะไร เพราะคดีแทบจะไม่มีมูล เป็นผลไม้พิษจากรัฐประหารเท่านั้น

แต่ปัญหาสำคัญคือนายทักษิณ จะได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดีหรือไม่ เพราะหากย้อนลับไป มีเพียง สส. 2 คนของพรรคก้าวไกลที่ได้ประกันตัว แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นสส. อย่างนายอานนท์ นำพา และแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมรุ่นใหม่ ยังอยู่ในเรือนจำทั้งสิ้น จะเกิด 2 มาตรฐาน และนำไปสู่กระแสไม่พอใจและลุกฮือของมวลชนได้

แม้ดูเหมือนนายทักษิณ จะมั่นใจจะฝ่าทางตันไปได้ และเชื่อว่าฝ่ายตนจะได้เปรียบ ไม่ว่าจากเรื่อง “ดีลลับ” ยังได้ไปต่อ หรือการกลับมามีอำนาจบารมีอีกครั้งแล้ว

กระนั้น นายทักษิณ ย่อมได้ชื่อว่า เป็นคนแรกที่กล้าท้าทายเปิดหน้าชนกับ “บิ๊กป้อม” คนใหญ่บ้านป่ารอยต่อ ในรอบ 20 ปีมานี้ ชนิดไม่มีใคร “กล้าหือ”

และถือเป็นการ “เอาคืน” อีกครั้งของนายทักษิณ หลังจากครบรอบ 12 ปี รัฐประหาร 19 กันยายน 2561 “บิ๊กป้อม” ให้สัมภาษณ์สื่อ จัดหนักไล่นายทักษิณไปเคลียร์คดีก่อน ค่อยมาพูดเรื่องปรองดอง

และสำทับกลับ ที่ผ่านมา ใครทำบ้านเมืองวุ่นวายปั่นป่วน ก่อนโดนนายทักษิณสวนกลับทางเฟซบุ๊ค บอก “ขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะ ขอเป็นผบ.ทบ.เลย”

เท่ากับจัดหนักแบบ “ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ” ส่วนจะมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับจาก “บิ๊กป้อม” หรือบริวารรอบข้างหรือไม่ ต้องติดตาม

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : "เศรษฐา​" ส่งคำชี้แจงปม 40 สว.ยื่นถอดถอนให้ศาล รธน.แล้ว

หอการค้าชี้"บอลยูโร" ทำเงินสะพัด 8 หมื่นล้าน เศรษฐกิจขยาย 5%

คึกคัก! 8 บริษัทดังร่วมชิงยื่นซองคุณสมบัติประมูลข้าว 10 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง