ร้องธนาคารรับผิดชอบ ทนายถูกมิจฉาชีพดูดเงินสูญ 1.1 ล้านบาท

สังคม
19 มิ.ย. 67
07:24
1,861
Logo Thai PBS
ร้องธนาคารรับผิดชอบ ทนายถูกมิจฉาชีพดูดเงินสูญ 1.1 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทนายความใน จ.ราชบุรี ที่ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ใช้กลอุบาย หลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงินออกจากบัญชีจนหมดตัวกว่า 1.1 ล้านบาท ยื่นคำขาดธนาคารให้เวลา 2 สัปดาห์ หากไม่รับผิดชอบจะฆ่าตัวตายหน้าธนาคาร ซึ่งเมื่อวานนี้ครบรอบ 2 สัปดาห์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2567 ตำรวจบุกเข้าชาร์จ นาย นพ สุขาภิรมย์ อายุ 71 ปี ทนายความ หลังพยายามใช้ไขควงทำร้ายตัวเอง เพื่อเรียกร้องให้ธนาคารรับผิดชอบ หลังถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน 1,100,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยบุกไปประท้วงใช้อุจจาระราดตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง

ก่อนเกิดตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรีและตำรวจนอกเครื่องแบบ เกือบ 10 นาย มาเฝ้าสังเกตการณ์และระงับเหตุ โดยนายนพ ได้อ่านแถลงการณ์เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอกให้โอนเงินและการติดตามความคืบหน้า เพื่อขอเงินคืน แม้ที่ผ่านมาจะได้รับเงินเยียวยาจากธนาคารจำนวน 30,000 บาท แต่ยังสามารถใช้ดำรงชีพต่อไป

จึงเรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมต้องให้คำตอบทันทีว่า จะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่ หากไม่คืน ยืนยันจะจบชีวิตตัวเองที่หน้าธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ

ตร.ต้องพยายามเข้ามาเกลี่ยกล่อม ระงับเหตุ และพูดคุยกับนายนพอย่างใจเย็น และขอให้กลับไปรอคำตอบจากทางธนาคารที่บ้าน แต่นายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธที่ตัว พบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น แต่การตรวจค้นไม่ได้มีการตรวจค้นไปที่บริเวณขา

หลังรอนานกว่า 1 ชั่วโมง ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมารับหนังสือ หรือพูดคุยเจรจา นายนพจึงทำทีที่จะยอมกลับบ้าน แต่ไม่ยอมให้ตำรวจตามประกบตัว ก่อนจะใช้จังหวะตำรวจเผลอ หยิบไขควงที่แอบซ่อนไว้ในข้างถุงเท้า แทงเข้าที่แขนของตัวเองทะลุจนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงเร่งให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยทำแผลและนำตัวส่งโรงพยาบาล

จากการสอบถามนายนพ หลังจากที่กลับจากไปทำแผลที่โรงพยาบาลแล้ว ทราบว่า บาดแผลนั้นเป็นเพียงรูเล็ก ๆ ทะลุแขนไปอีกฝั่ง ทำให้หมอไม่สามารถที่จะเย็บแผลได้ ทำได้เพียงแค่ล้างแผลและให้ยาแก้ปวดและยาแก้อักเสบกลับมากินที่บ้าน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะดูว่าทางธนาคารจะรับผิดชอบอย่างไร และจะรอคำตอบจากธนาคารต่อไป

อ่านข่าวอื่น :

รวบสาว 23 ปี หลอกลงทุน "อดีตผู้ว่าฯ รัฐวิสาหกิจ" สูญ 20 ล้านบาท

โซเชียลยินดี "สมรสเท่าเทียม" ทุกเพศเท่ากัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง