วันนี้ (2 ก.ค.2567) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร้องกองปราบให้ช่วยตรวจสอบรื้อคดีเหตุการณ์ลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กรณีมีผู้ก่อเหตุ 2 คนใช้อาวุธปืนยิงใส่รถบริเวณซอยสาริกา ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เมื่อปี 2563
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นมานานหลายปีและเปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้ว 4 นาย แต่ยังจับกุมผู้ก่อเหตุไม่ได้ ตนจึงมาร้อง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม ร่วมกับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
โดยเฉพาะผู้การสืบนครบาล มีนักสืบมือดีอยู่เป็นจำนวนมาก ให้ช่วยรื้อคดีลอบยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพราะผ่านมา 4 ปียังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้
นายอัจฉริยะ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่มาร้องเรื่องนี้ทั้งที่เป็นคู่กรณีกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่า เป็นห่วง เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องร้องหลายคนและมีศัตรูมาก อีกทั้งยังเป็นถึงรอง ผบ.ตร.ที่ถูกลอบยิงรถ แต่ยังไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุได้ และเหตุการณ์นี้เป็นคดีอาชญากรรมร้ายแรงที่ยิงกลางเมืองหลวงและพื้นที่ สน.บางรัก แต่ไม่มีการติดตามคดี จึงต้องการให้มีการสั่งรื้อคดี
"อัจฉริยะ" ร้องอดีตผู้การนราธิวาส-พวก ปมสำนวนเอกสารร้องทุกข์
วันเดียวกัน นายอัจฉริยะ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) โดยระบุว่า ตำรวจกองกำกับการ 2 ร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้นำสำนวนและเอกสารหลักฐานสำคัญที่นายอัจฉริยะ เคยร้องทุกข์ต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสกับพวก ใน 2 คดีที่เกี่ยวโยงกับการทุจริตในหน้าที่ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 เช่น แผ่นซีดีคลิปวิดีโอหลักฐาน, คำให้การผู้ร้อง ส่งให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส จนทำให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส มีข้อมูลนำมาฟ้องกลับนายอัจฉริยะ
ซึ่งในทางกฎหมาย สำนวนเอกสารหลักฐานที่ผู้ร้องร้องทุกข์ต่อตำรวจ ปปป. ไม่สามารถนำออกมาเปิดเผยได้เพราะเป็นความลับทางราชการ โดยเอกสารดังกล่าวนี้ยังไปถึงชั้นการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว จึงถือว่าเป็นการทำผิดร้ายแรง เพราะ ปปป.เป็นหน่วยงานที่ปราบทุจริตเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ตำรวจ ปปป.กลับทุจริตเอง
นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า เมื่อปลาปี 2566 ได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ปปป. ซึ่งคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ดำเนินการตามคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งมีการระบุว่าอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมพวก มีความผิดจริง
ต่อมา อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้ฟ้องตนเองที่ศาลอาญารัชดาและขอหมายศาลพยานหลักฐานมาที่ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. หลังจาก พล.ต.ต.ประสงค์ ได้รับหมายศาล ก็มีการส่งเอกสารโจทก์ไปยังศาล คือข้อมูลในบันทึกประจำวัน แต่ปรากฏว่ามีพนักงานสอบสวนของ บก.ปปป. ที่ครอบครองเอกสารชุดที่ตนเองมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีที่ ปปป.เอาไปให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมพวก นำไปใช้อยู่ในศาล
ตนเองจึงตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า พล.ต.ต.ประสงค์ จะจัดการเรื่องนี้อย่างไร อีกทั้งขณะนี้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสได้ฟ้องตนเองว่าแจ้งความเท็จ แต่ปรากฏว่าสำนวนการสอบสวนทั้งหมดที่อยู่ในมือของ ปปป.กลับไปอยู่ในมือของผู้ถูกกล่าวหา วันนี้ (2 ก.ค.) จึงร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
อ่านข่าว
จับเจ้าของเต็นท์รถขายรถมือ 2 ติดไฟแนนซ์ มีผู้เสียหายกว่า 40 คน
เลขาฯ กฤษฎีกา ชี้ "ชาญ" ยังนั่ง "นายก อบจ.ปทุมฯ" ไม่ได้ เพราะมีคดีค้างเก่าที่ ป.ป.ช.
ทันไตรมาส 4 หรือไม่ ? ครม.ยังไม่พิจารณา 1.22 ล้านล้าน งบฯ ดิจิทัลวอลเล็ต