(13 ก.ค.2567) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้ากรณีการหายตัวไปของ Mrs.Yan Ruimin (นส.เหยียน รุ่ยหมิน) ดาวติ๊กต่อกชาวจีนวัย 38 ปี หลังเจ้าหน้าที่ปูพรมตรวจค้น 12 จุด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ Mr.Qingyan Ma (นายชิงเหยียน หม่า) จอดรถระหว่างทางจากซอยสุขุมวิท 16 ซึ่งเป็นที่พบทั้งสองคนพักอาศัยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนฝ่ายหญิงหายตัวไปในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าผู้สูญหายเดินทางจากประเทศมาเลเซีย เข้ามายังประเทศไทยคนเดียวในวันที่ 26 มิ.ย. ส่วนชายต้องสัยเดินทางจากประเทศสิงคโปร์เข้าไทยวันที่ 30 มิ.ย. โดยฝ่ายผู้สูญหายเคยเข้าไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว 10 ครั้ง ส่วนผู้ต้องสงสัยเข้ามาแล้ว 6 ครั้ง ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 คนเคยรู้จักกันมาก่อน
อ่านข่าว : พบเบาะแส "หญิงชาวจีน" หายตัว ภาพวงจรปิดขึ้นรถไปกับชายชาวจีน
จากนั้นวันที่ 28-29 มิ.ย.ฝ่ายหญิงเดินทางไปพักที่พัทยา โดยเกิดอุบัติเหตุ มีการแจ้งความไว้ที่ สภ.พัทยา ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงเทพในวันที่ 30 มิ.ย. และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งชั่วคราว ก่อนจะไปค้างกับเพื่อนที่บ้านย่านพระราม 9 จากนั้นวันที่ 1 ก.ค. พบว่าฝ่ายหญิงเรียกแกร็บไปส่งที่ซอยสุขุมวิท 12 โดยฝ่ายชายขับรถมารับที่จุดนัดพบ และพบว่าทั้งคู่มีการไปพักที่ที่พักในซอยสุขุมวิท 16 ด้วยกัน
จากนั้นเวลา 23.00 น. ของวันเดียวกัน เพื่อนของผู้สูญหายที่เป็นคนมาแจ้งความ ก็ไม่สามารถติดต่อกับฝ่ายหญิงผ่านวีแชทได้ แต่พบว่าโทรศัพท์ยังเปิดเครื่องอยู่
โดยในคืนวันที่ 1 ก.ค.จากการตรวจสอบภาพวงจรปิด พบว่าผู้ต้องสงสัย ขับรถออกมาคนเดียวจากที่พักในซอยสุขุมวิท 16 มาที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยระหว่างทางมีการชะลอรถจอดเป็นระยะ โดยบางจุดก็จอดนิ่งแต่ยังอยู่ในรถ และบางจุดก็ลงจากรถ รวม 12 จุด จนกระทั่งมาถึงจุดสุดท้ายที่เป็นจุดเผากระเป๋า ลักษณะเป็นที่รกร้างและมีบ่อน้ำบริเวณใกล้เคียง พบว่าผู้ต้องสงสัยลงจากรถและหายไปใช้เวลาราว 1.05 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาที่รถ และขับออกไปเช่าห้องพักย่านศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ ก่อนจะนำรถไปคืน
จากการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน บริเวณที่พักย่านศรีนครินทร์ พบคราบเลือดที่อ่างล้างหน้า และจากการตรวจสอบรถเช่า พบคราบเลือดภายในรถทั้งบริเวณพื้นที่นั่งคนขับ เบาะหลัง ข้างประตู และบริเวณกระโปรงรถ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมเตรียมนำไปตรวจเทียบดีเอ็นกับพ่อของผู้สูญหายที่ตำรวจได้เก็บไว้ก่อนหน้านี้
ญาติของผู้สูญหายยังมีความหวังว่ายังมีชีวิต ตราบใดที่ยังไม่พบร่างของผู้สูญหาย ก็ยังไม่สามารถสรุปได้เสียชีวิตแล้วหรือไม่ โดยในวันนี้ตำรวจได้ขอความร่วมมือจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบเบาะแส ชิ้นส่วนมนุษย์ รวมถึงศพที่ไม่มีญาติ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ สภ. ใกล้เคียง
โดยจากการสอบถามญาติ ไม่ทราบความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คน ส่วนญาติที่รับโทรศัพท์จากการเรียกค่าไถ่เป็นพี่เขยของผู้สูญหาย มีการเรียกเงิน 1 ล้านหยวน หรือราวๆ 5 ล้านบาท พี่เขยจึงบอกญาติของฝ่ายหญิงให้รับรู้ ทำให้ญาติๆ พากันบินมาติดตามคดีที่เมืองไทย ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้ประสานทั้งสถานทูตและ ตม. ตรวจสอบประวัติของทั้งสองคน รวมถึงกรณีที่ฝ่ายชายเคยเดินทางเข้ามาไทยก่อนหน้านี้มีการเข้ามาประกอบอาชีพอะไรด้วยหรือไม่
โดยตัวของผู้ต้องสงสัย หลังเกิดเหตุพบข้อมูลว่ามีการเดินออกนอกประเทศ ไปยังฮ่องกงก่อน จากนั้นก็ไปต่อที่มาเก๊า โดยพบข้อมูลการใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือของผู้ตายตั้งแต่วันที่ 4-6 ก.ค. ซึ่งจะประสานกับ ตม.และสถานทูต เพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำ
อ่านข่าว :
ศาลฎีกายืนประหารชีวิต "บรรยิน" คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
ยึดเครื่องรับสัญญาณ-ซิมการ์ดนับหมื่น ตัดตอนเครือข่ายคอลเซนเตอร์