“ราคาทอง” เช้านี้ บวก 500 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 42,650 บาท

เศรษฐกิจ
17 ก.ค. 67
09:46
1,570
Logo Thai PBS
“ราคาทอง” เช้านี้ บวก 500 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 42,650 บาท
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ราคาทองคำ เช้านี้ บวก 500 บาท หลังเฟดแถลงเงินเฟ้อลดลงใกล้เป้าหมาย 2% นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น มีความหวังเฟดปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. “ฮั่วเซ่งเฮง” แนะถือต่อ “ทองรูปพรรณ” ขายออก 42,650 บาท

วันนี้ (17 ก.ค.2567) เว็บไซต์ "ฮั่วเซ่งเฮง" รายงานสถานการณ์ราคาภาพรวมความเคลื่อนไหวราคาทองคำ ภาพรวมเคลื่อนไหวที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง ทำ All-Time High ใหม่ ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก แถลงเงินเฟ้อกำลังลดลงสู่เป้าหมาย 2% ทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นว่าเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.นี้ ส่วนกองทุน SPDR ซื้อทอง 5.49 ตัน

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนมิ.ย. ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 1.40 ล้านยูนิต การเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมิ.ย. ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ 1.30 ล้านยูนิต จาก 1.28 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.

"ฮั่วเซ่งเฮง" วิเคราะห์ราคาทอง มีแรงซื้อทองคำเข้ามาอย่างแข็งแกร่งมาก ทำให้ราคาทองคำปิดตลาดที่ All-Time High ขณะที่ indicator ต่างๆ ยังส่งสัญญาณการปรับตัวขึ้นต่อ ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม ช่วงกลางวันอาจปรับตัวขึ้นในกรอบที่แคบลง

ราคาทองตลาดโลกแนวรับ : 2,460 และ 2,450 ดอลลาร์ แนวต้าน : 2,480 และ 2,500 ดอลลาร์ ราคาทองคำยังคงมีทิศทางแนวโน้มปรับตัวขึ้น หากมีการเข้าซื้อไว้ แนะนำ Let Profits Run หรือเข้าซื้อบริเวณ 2,450 ดอลลาร์ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 2,440 ดอลลาร์

ราคาทองคำแท่ง 96.5% แนวรับ : 41,900 และ 41,800 บาท แนวต้าน : 42,100 และ 42,300 บาท คาดราคาทองคำแท่งมีโอกาสทำ All-Time High ใหม่ ทั้งนี้มีโอกาสที่ปรับตัวขึ้นแตะ 42,000 บาท แม้เงินบาทแข็งค่า แต่การดีดตัวขึ้นของราคาทองคำโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า หากมีการเข้าซื้อเก็งกำไรไว้ แนะนำให้ถือต่อไป หรือ Let Profits Run

สำหรับราคาทองวันนี้ บวก 500 บาท ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 42,150 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 42,050 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 42,650 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 41,295.84 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,482 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 35.93บาทต่อดอลลาร์

โดยราคาทองรูปพรรณรวมค่ากำเหน็จ 500 บาท มีราคาดังนี้ ทองครึ่งสลึง ราคาขาย 5,769 บาท ทอง 1 สลึง ราคาขาย 11,03 บาท ทอง 2 สลึง/50 สตางค์ ราคาขาย 21,575 บาท และทอง 1 บาท ราคาขาย 42,650 บาท ภาพรวมเดือนก.ค. ราคาทอง บวก 1,650 บาท

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประเมินเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 35.80-36.60 บาท/ดอลลาร์ หลังเงินบาทปิดแข็งค่าที่ 36.21 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 36.10-36.50 บาท/ดอลลาร์ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 7 สัปดาห์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ประเมินว่ามีความคืบหน้าในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อและตลาดแรงงานชะลอตัวลง

ขณะที่เฟดกำลังเผชิญความเสี่ยงสองด้านและไม่สามารถให้น้ำหนักไปที่การดูแลภาวะเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว ซึ่งเฟดใกล้ที่จะลดดอกเบี้ยแต่ยังต้องการเห็นอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวต่อไป

นอกจากนี้ ประธานเฟดระบุว่าการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยไม่ใช่การกระทำเพื่อหวังผลทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย. ทั้งนี้ แรงขายดอลลาร์เร่งตัวหลังสหรัฐฯรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย.ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 1 ปี

ด้านดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 3.3% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 3 ปี ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 3,150 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 8,717 ล้านบาท ตามลำดับ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดในสัปดาห์นี้ว่า ตลาดจะติดตาม จีดีพีไตรมาส 2 ของจีน ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ รวมถึงการประชุมธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ซึ่งคาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.75% ในวันที่ 18 ก.ค. หลังตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯสะท้อนการชะลอตัวมากขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. นี้

โดยในภาพรวม ข้อมูลต่างๆทำให้เราเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการเร่งตัวของเงินเฟ้อเมื่อต้นปีนี้เป็นเพียงภาวะชั่วคราว สนับสนุนมุมมองของเราที่ว่าเงินดอลลาร์อยู่ในทิศทางอ่อนค่าลงขณะที่ในการประชุม FOMC สิ้นเดือนนี้เฟดมีแนวโน้มส่งสัญญาณเพื่อปูทางไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า

ส่วนเงินเยนฟื้นตัวจากระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 38 ปี ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงตลาดหลังสหรัฐฯประกาศตัวเลขเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนกลยุทธ์ดูแลค่าเงินเยนไปสู่แนวทางเชิงรุก

สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าศักยภาพการเติบโตของไทยที่ 3% ยังไม่พอที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนในระยะยาว ขณะที่หนี้ครัวเรือนซึ่งอยู่ที่ราว 91% ของจีดีพีสูงเกินไปสำหรับเสถียรภาพของประเทศ แต่การแก้ไขต้องใช้เวลา

อ่านข่าว:

"คลัง" เตือนเอาผิดหากแลก "เงินสด" 10,000 แทนใช้เงินดิจิทัล

GULF ประกาศควบรวมกิจการ INTUCH ตั้งบริษัทใหม่ NewCo

ไฟเขียว "หวยเกษียณ" ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาท/เดือน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง