วันนี้ (26 ก.ค.2567) จากเหตุการณ์เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงของฝรั่งเศส ตกเป็นเป้าโจมตีทำให้สะเทือนไปทั้งระบบ ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารหลายแสนคน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนหน้าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 กำลังเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ในกรุงปารีส
อ่านข่าว : พิธีเปิดโอลิมปิก ปารีสเกมส์ 2024 ล่องเรือแม่น้ำแซน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ของการรถไฟพร้อมตำรวจฝรั่งเศล เข้าตรวจสอบสายเคเบิลที่ถูกตัดและเผาทำลายจนได้รับความเสียหาย ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการต่อต้านอาชญากรรมได้เริ่มสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยถือเป็นคดีก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายต่อทรัพย์สิน ซึ่งคุกคามผลประโยชน์พื้นฐานของชาติ ข้อกล่าวหานี้มีโทษจำคุก 15 ปี ปรับ 225,000 ยูโร หรือประมาณ 8,800,000 บาท
ในขณะที่การรถไฟฝรั่งเศส ระบุว่า เครือข่ายรถไฟความเร็วสูงตกเป็นเป้าการโจมตี ซึ่งรวมถึงการลอบวางเพลิงจนส่งผลให้การเดินรถไฟหลายสายเป็นอัมพาต ต้องสั่งยกเลิกการให้บริการในหลายเส้นทาง
นอกจากนี้ การรถไฟฝรั่งเศส ยังระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารประมาณ 800,000 คน พร้อมทั้งร้องขอให้ประชาชนเลื่อนการเดินทางออกไปก่อนในช่วงนี้ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าใช้บริการที่สถานีรถไฟ เพราะเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ประเมินว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมตลอดสุดสัปดาห์นี้
ด้าน รัฐบาลฝรั่งเศส ออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการก่ออาชญากรรม ที่คาดว่ามีการเตรียมการวางแผนให้การโจมตีสอดรับกันในหลายจุด
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 จะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ในเวลา 19.30 น. ตามเวลาของประเทศฝรั่งเศส หรือ 00.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
"ปารีส" เงียบเหงา นักท่องเที่ยวเลี่ยง "โอลิมปิก"
แม้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่เจ้าภาพยืนยันว่าพิธีการทุกอย่างจะคงไว้ตามกำหนดเดิม โดยโอลิมปิกในครั้งนี้มีเข้าร่วมงานมากกว่า 70,000 คน ในจำนวนนี้เป็นนักกีฬาประมาณ 10,500 คน สื่อมวลชนจากทั่วโลก 20,000 คน และอาสาสมัครที่มีมากถึง 45,000 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกประมาณ 75,000 คน
ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนปารีสในช่วงโอลิมปิกคาดว่าจะมีประมาณ 11 ล้านคน ซึ่งน้อยกว่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ถึง 4 ล้านคน โดยสายการบินหลายแห่งยอมรับว่าจำนวนผู้โดยสารลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงการเข้าไปในกรุงปารีสในช่วงนี้
สิ่งหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความเงียบเหงาคืออัตราการจองโรงแรม ในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ในภาพรวมยอดการจองลดลงครึ่งหนึ่ง แต่ถ้าเป็นโรงแรมหรูลดลงร้อยละ 20-50
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายย่อย อย่างร้านขายของที่ระลึก เจ้าของร้านบอกว่าลูกค้าเริ่มลดลงตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เดือนนี้ยิ่งแย่หนักกว่าเดิม และมองว่าสถานการณ์เป็นแบบนี้ทั้งประเทศ เพราะผู้คนต้องการหลีกเลี่ยงฝรั่งเศสและกรุงปารีส เนื่องจากกังวลเรื่องโอลิมปิก รวมถึงการจราจรและเรื่องอื่น ๆ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด รวมถึงคาเฟ่ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวก็เงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่นักท่องเที่ยวเองก็ยอมรับว่าประสบปัญหาเรื่องการเดินทางในเมือง เพราะมีการปิดถนนเต็มไปหมด ทำให้ต้องเดินอ้อม มิหนำซ้ำนักท่องเที่ยวบางคนต้องลากกระเป๋าเดินทางไปด้วยเลยทำให้ลำบากเข้าไปอีก
แม้ว่าธุรกิจในกรุงปารีสจะได้รับผลกระทบจากการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปแล้วกลับได้รับอานิสงส์จากเรื่องนี้
สมาคมการท่องเที่ยวยุโรปประเมินว่า การแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้จะสร้างรายได้ให้กับกลุ่มประเทศยุโรปมากถึง 872,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้คนที่หลีกเลี่ยงฝรั่งเศสจะเดินทางไปท่องเที่ยวและพักผ่อนในประเทศอื่น ๆ แทน
นอกจากนี้คนที่เดินทางมาร่วมโอลิมปิกอาจจะถือโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นในยุโรปด้วย เพราะการเดินทางระหว่างประเทศในยุโรปค่อนข้างสะดวก ส่วนบรรยากาศที่เงียบเหงาในกรุงปารีสคาดว่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อโอลิมปิกสิ้นสุดลงและทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
อ่านข่าว : เส้นทางล่องเรือแม่น้ำแซน พิธีเปิด "โอลิมปิก 2024" ปารีสเกมส์