วันที่ 4 ส.ค.2567 ตำรวจ สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักเฉี่ยวชนหลายคัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบพร้อมอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นสามแยกฟูจิ พบรถเก๋งสีแดงสภาพพลิกตะแคงขวางอยู่กลางถนน มีนายภูษณ เป็นคนขับขี่ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์สภาพรถถูกชนพังเสียหายครึ่งคัน ส่วนคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อต่อมาคือ นายวันดี มีบาดแผลข้อเท้าฉีกขาด
เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล นอกจากนี้ที่เกิดเหตุยังมีรถได้รับความเสียหายอีก 4 คัน แบ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 1 คัน รถเก๋ง 1 คัน และรถแท็กซี่ 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงเร่งเคลียร์ที่เกิดเหตุและระบายรถ เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด
พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า จากการสอบถามนายภูษณ ให้การว่า ขณะขับขี่มาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ตนเองจะรีบขับแซงรถคันหน้า แต่แซงไม่พ้น และจะเหยียบเบรก แต่พลาดไปเหยียบคันเร่งแทน ทำให้ตกใจจนเกิดชนกับรถจักรยานยนต์ของผู้บาดเจ็บ ก่อนที่รถจักรยานยนต์จะไปชนอัดเข้ากับรถแท็กซี่ ทำให้รถยนต์ของตนเองพลิกตะแคงไปชนกับรถคู่กรณีเสียหายอีก 3 คัน
เบื้องต้นตำรวจควบคุมตัวนายภูษณไปที่ สน.ทองหล่อ เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ไม่พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทางพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตราย ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้านหนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองขับรถมาจากถนนเพชรบุรี มุ่งหน้าไปปากซอยสุขุมวิท 39 โดยสภาพถนนบริเวณดังกล่าวเป็นเลนสวน เหตุเกิดที่ใกล้ทางแยกฟูจิ ซึ่งมีรถจอดติดเพื่อรอเลี้ยวซ้าย จู่ ๆ ได้มีรถเก๋งขับมาชนที่กระจกด้านข้าง ก่อนจะพุ่งด้วยความเร็วไปชนรถคันอื่น ๆ รวมถึงจักรยานยนต์ ซึ่งจอดเรียงอยู่ด้านหน้า ภายหลังผู้ขับขี่ได้ลงมาพูดคุย ตนเองจึงเดินทางพร้อมผู้ก่อเหตุมาที่สถานีตำรวจ เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับผู้เสียหายอีก 1 คน ที่เป็นคนขับรถแท็กซี่ อยู่ใกล้กับรถจักรยานยนต์คันที่มีผู้ขับขี่เป็นพนักงานส่งอาหาร ซึ่งได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขาด เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุรู้สึกตกใจ โดยผู้ขับขี่ได้ขับมาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้รถที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายรวม 5 คัน ต่อมาลงมาไหว้ขอโทษผู้เสียหายทุกคน ซึ่งตนเองเพิ่งจะผ่อนรถแท็กซี่คันนี้มาได้เพียง 10 เดือนเท่านั้น โดยจะเรียกค่าเสียหายทั้งที่เกิดขึ้นกับรถ และค่าเสียเวลาในการประกอบอาชีพ แต่ยังกังวลเนื่องจากทราบมาว่ารถคันดังกล่าวไม่มีประกันภัย แต่ก็จะให้บริษัทประกันภัยของตนเองไปเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ก่อเหตุ