วันนี้ (26 ส.ค.2567) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุโขทัย หลังจากมีมวลน้ำจาก อ.วังชิ้น จ.แพร่ เริ่มไหลผ่าน ซึ่งหลายจุดมีน้ำไหลแรงและสีแดงขุ่น บางจุดมีความอ่อนไหว แม้จะมีการวางคันดินแต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงน้ำได้
โดยสภาพหมู่บ้านวังใหญ่-วังทอง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย หลังน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมชุมชน ส่งผลให้ถนนที่จะข้ามสะพานวังใหญ่ไม่สามารถใช้การได้
เช่นเดียวกับบริเวณหมู่บ้านหนองโว้ง ต.เมืองบางยม อ.สวรรคโลก คันดินแม่น้ำยมถูกน้ำซัดพัง พระเณรหลายรูป ออกมาช่วยชาวบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมซ่อมนำถุงบิ๊กแบ็ก และกระสอบทรายมาวางกั้น ขณะนี้ระดับน้ำสีแดงขุ่นไหลท่วมถนนแล้ว
อ่านข่าว เตือนทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง 26-28 ส.ค.นี้
ปริมาณน้ำ 1,333 ลบ.ม.ต่อต่อวินาที
กรมชลประทานรายงานว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดแพร่ ได้ไหลมาถึงจังหวัดสุโขทัยแล้ว โดยที่สถานีวัดน้ำ Y.14A อ.ศรีสัชนาลัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,333 ลบ.ม.ต่อต่อวินาที มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนที่ตัวเมืองสุโขทัย สถานีวัดน้ำ Y.4 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 474 ลบ.ม.ต่อวินาที ต่ำกว่ากำแพงป้องกันตลิ่งประมาณ 30-40 เซนติเมตร ระดับน้ำแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน
กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือ โดยการหน่วงน้ำไว้ที่เหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก และใช้คลองหกบาท คลองยมน่าน แม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำน่าน ช่วยตัดยอดน้ำหลากก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัย พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่านประตูบ้านหาดสะพานจันทร์ ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
แม่น้ำยมล้นตลิ่งหลายจุดแพร่-สุโขทัย
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ จ.สุโขทัย 76 มม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอน แก่น 94 มม.ภาคกลาง จ.สิงห์บุรี 54 มม. ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี 47 มม. ภาคตะวันตก จ.กาญจนบุรี 30 มม. ภาคใต้ จ.พังงา 146 มม.
นอกจากนี้ สทนช.เตือน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง สวรรคโลก ศรีสำโรง และศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนที่ตัวเมืองสุโขทัย ระดับน้ำแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่ากำแพงป้องกันตลิ่ง ทั้งนี้กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเหนือ โดยการหน่วงน้ำไว้ที่เหนือประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก และใช้คลองหกบาท คลองยมน่าน แม่น้ำยมสายเก่า และแม่น้ำน่าน ช่วยตัดยอดน้ำหลากก่อนที่จะเข้าสู่ตัวเมืองสุโขทัย พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่าน ประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ลงสู่แม่น้ำยมสายหลัก ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
ขณะที่สถาสถานการณ์ที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ หลังฝนตกลงมาหนัก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมบริเวณ อ.วังชิ้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง
ชาวบ้านเล่าว่า ปีนี้น้ำมาเร็วจนไม่ทันตั้งตัวขณะนี้ ระดับน้ำในแม่น้ำยมที่สูงขึ้นได้ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในอ.วังชิ้น ถูกน้ำท่วมอย่างกว้างขวาง ความยากลำบากในการเข้าช่วยเหลือยังคงมีอยู่ เนื่องจากเรือขนาดเล็กไม่สามารถเข้าถึงทุกจุดได้ เพราะกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว
อ่านข่าว คันดินกั้นน้ำยมแตก ท่วมบ้าน ปชช. จ่อเข้าเมืองสุโขทัย เร่งเสริมแนวป้องกัน
ขนของหนีน้ำ-มาเร็วและแรง
ชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณหมู่ที่ 1 บ้านใหม่กลาง ต.วังชิ้น อ.วังชิ้น เร่งทยอยขนของออกจากพื้นที่ เนื่องจากบริเวณนี้ติดกับแม่น้ำยม ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวทำให้การเข้าถึงหมู่ที่ 1 เป็นไปอย่างยากลำบาก ต้องใช้กำลังคนในการพายเรือเข้าไปแจกจ่ายเสบียงอาหาร โดยเรือขนาดเล็กอาจถูกกระแสน้ำพัดพาได้
ชาวบ้านในหมู่ที่ 1 ระบุว่า ระหว่างช่วงเวลาประมาณ 05.00 น.น้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาต้องรีบขนของขึ้นไปเก็บยังพื้นที่ปลอดภัย และย้ายไปพักอาศัยที่บ้านญาติซึ่งไม่ถูกน้ำท่วม
ในช่วงคืนที่ผ่านมา เมื่อระดับน้ำเพิ่มขึ้นพร้อมกับพายุฝนอย่างหนัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เสริมกำลังเรือยนต์มาประจำที่บ้านใหม่กลาง 3 ลำ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมในอ.วังชิ้นได้ขยายวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อ 9 หมู่บ้าน และ 733 ครัวเรือน บางจุดเรือเล็กไม่สามารถผ่านได้ จำเป็นต้องใช้เรือยนต์ในการแจกจ่ายเสบียงอาหารและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
อ่านข่าว เตือน 10 จว.ภาคกลาง-กทม.รับมือน้ำเจ้าพระยาสูงขึ้น 40-80 ซม.
เตือน 35 จังหวัดเสี่ยงน้ำป่าหลาก-ดินถล่ม
สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มและบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำบริเวณ จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองคาย หนองบัวลำภู บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง และสตูล
นอกจากนี้ขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน และระดับน้ำล้นตลิ่ง
ในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของ ลำน้ำงาว แม่น้ำสาย แม่น้ำอิง แม่น้ำน่าน แม่น้ำยม แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำป่าสัก ลำน้ำก่ำ และแม่น้ำตราด
อ่านข่าวอื่นๆ สภาฯ แจงไม่ใช่ผนังถล่ม กองอิฐตกหล่นใส่แรงงานเจ็บ