ภัยแล้งน่าน-สระแก้วเริ่มคลี่คลาย ชาวนาเร่งปักดำข้าวเพาะปลูกพืชทันทีหลังมีน้ำเพียงพอ
วันนี้ (10 ก.ค. 2558) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายหลังมีฝนตกและปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการทำการเกษตร ขณะที่บางจังหวัดยังวิกฤติหนัก ล่าสุดฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้อ่างเก็บน้ำห้วยแฮดที่แห้งขอดนาน 2 เดือน มีน้ำเพียงพอปล่อยสู่พื้นที่เกษตรได้ ทำให้ชาวนา ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน เร่งปักดำต้นกล้าในนาข้าวทันที เช่นเดียวกับชาวนา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการปลูกพืชไร่ นอกจากนี้ ยังมีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ 8 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่การระบายน้ำอยู่ที่ 17 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน จากปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ 349 ล้าน ลบ.ม.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ส่วนภาคเหนือตอนล่างยังเผชิญกับภัยแล้งที่ขยายวงกว้าง ส่งกระทบผลผลิตทางการเกษตร ทั้งสวนมะพร้าวน้ำหอม ใน ต.วังสำโรง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร และสวนกระท้อน ต.ธำมรงค์ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ไม่ต่างจาก จ.นครราชสีมา ที่เขื่อนลำตะคองลดปริมาณการจ่ายน้ำ เจ้าหน้าที่การประปาจึงขอให้เกษตรกรงดสูบน้ำเข้านาข้าว เหตุน้ำไม่ไหลไปถึง ต.กุดจิก อ.สูงเนิน อีกทั้งไม่สามารถผลิตน้ำประปาแจกจ่ายประชาชน
ด้าน ชาวนา 100 คน จาก 4 ตำบล ใน จ.อ่างทอง เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 5 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่คลองโพธิ์เลี้ยงต้นข้าว 5,000 ไร่ ไม่ให้เสียหายจากภาวะขาดน้ำ ส่วน ชาวนา อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ติดตั้งเครื่องสูบเพิ่มอีก 7 เครื่อง เพื่อเร่งสูบน้ำจากปากคลองตาลเสี้ยนไปช่วยนาข้าวใน 3 ตำบล ที่กำลังตั้งท้องกว่า 9,000 ไร่ ขณะที่ ชาวนา ต.ชายนา และ ต.มารวิชัย อ.เสนา จ.อยุธยา ตัดใจปล่อยให้ข้าวยืนต้นตาย เพราะไม่สามารถหาน้ำมาใส่นาข้าวได้ ส่งผลให้ชาวนามีภาระหนี้สินเพิ่ม