"เพื่อไทย" ทุ่มยึดเชียงใหม่ แก้มือพ่ายสนามใหญ่

เนื่องจากเจ้าของพื้นที่คือ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ชนะคู่แข่งคนสำคัญอย่างนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ไป ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนั้น เพิ่มความขัดแย้งระหว่างนายทักษิณ กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะพรรคเพื่อไทย เลือกที่สนับสนุนคนอื่นมากกว่าคนคุ้นเคยอย่างนายบุญเลิศ ที่นายจตุพร สนับสนุน

พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่

ในช่วงที่นายกอบจ.เชียงใหม่ ใกล้จะหมดวาระปลายปี 2567 อดีตพรรคก้าวไกล ที่ขณะนี้คือพรรคประชาชน ได้เปิดตัวและสนับสนุน นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เป็นว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ การศึกษาจากประเทศเดนมาร์ก มาชิงตำแหน่ง นายก อบจ.เชียงใหม่ แทนนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร

พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล เคยระบุถึงความมั่นใจในฐานเสียงสนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ว่า หากคุยกันด้วยวิทยาศาสตร์และตัวเลข ก็มีน้ำมีเนื้อ ที่จะพอชนะได้ เพราะเราได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงในช่วงการเลือกตั้ง สส. จำนวนมาก แต่ก็ประมาทไม่ได้เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นต่างจากการเลือกตั้งระดับชาติ ดังนั้นจึงต้องมีการทำงานร่วมกันกับสส.ในพื้นที่ เพื่อคว้าชัยชนะให้ได้

ส่วนจะมีการดึงคนในตระกูล "บูรณุปกรณ์" เช่น นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ อดีตนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ น้องชายของนางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ที่พ่ายแพ้กับผู้สมัครพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชน ในการเลือกตั้ง สส. ครั้งที่ผ่านมา มานั่งเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งนายก อบจ. หรือไม่

รวมถึงอาจประสานกับนายบุญเลิศ บุรณุปกรณ์ ที่อกหักจากนายก อบจ.เชียงใหม่ ครั้งที่แล้วมาช่วยหรือไม่ คงต้องรอผู้เกี่ยวข้องกับพรรคประชาชนให้คำตอบ

สำหรับประเด็นที่พรรคประชาชน ให้ความสำคัญในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่คือ เรื่องการกระจายอำนาจ รวมถึงปัญหาความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ และว่างงาน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่นายพันธุ์อาจ ต้องพิสูจน์ฝีมือ และยังต้องทำงานอย่างไร้รอยต่อกับการเมืองระดับชาติ คือสส.พรรคประชาชนของจังหวัดเชียงใหม่

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะยังคงส่งนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ลงสมัครอีกครั้ง หลังการดำรงตำแหน่งช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ก็มีผลงานหลายด้านเช่นกัน โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ชนบทห่างไกล ในอำเภอรอบนอก อีกทั้งได้วางฐานเสียงไว้กับกลุ่มผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกพื้นที่ทั้ง 25 อำเภอเช่นกัน

หากมองการเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ ที่จะมาถึงน่าจะเป็นการขับเคี่ยวแข่งกันระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือพรรคประชาชน ที่ชูคนรุ่นใหญ่ ต้องการเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง รวมถึงความได้เปรียบจากฐานเสียงคนที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ซึ่งกลุ่มคนจำนวนนี้ทำให้พรรคก้าวไกลได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสส. ถึง 7 เขตจากทั้งหมด 10 เขตมาแล้ว รวมทั้งได้ตระกูล "บุรณุปกรณ์" ที่ยังมีฐานเสียงในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่มาหนุน เนื่องจากนายอัศนี บุรณุปกรณ์ ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่

แต่พรรคเพื่อไทย ก็ได้เปรียบในฐานะเจ้าของพื้นที่เดิม ทำงานตำแหน่งนายกอบจ. ต่อเนื่องมา 4 ปี อีกทั้งขณะนี้พรรคเพื่อไทย ยังได้เป็นรัฐบาลใหม่ มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นบ้านเกิดตระกูลชินวัตรด้วย

หากอาศัยความได้เปรียบของกลไกลเข้าไปเสริมในช่วงเวลาที่เหลือ ก็ถือว่าได้เปรียบและมีโอกาสชนะเลือกตั้ง กลับมาเป็นนายกอบจ.เชียงใหม่อีกสมัยได้เช่นกัน

ประวัติผู้สมัคร

พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่

นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ เป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด จบชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย หลังจบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และปริญญาเอกจาก Aalborg University เดนมาร์ก ทำงานคลุกคลีในแวดวงนวัตกรรมมาโดยตลอด

โดยระหว่างดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) พยายามผลักดันแนวคิด ‘Innovation Thailand’ ผ่าน ‘Innovation for Crafted Living’ หรือนวัตกรรมเพื่อการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น โดยแบ่งเป็น 7 หมวด คือ นวัตกรรมเพื่อสุขภาพดี นวัตกรรมเพื่อผู้สูงวัย คนพิการ หรือผู้ที่ด้อยโอกาส นวัตกรรมเพื่อโลกและสิ่งแวดล้อม

นวัตกรรมที่เชื่อมโยงผู้ที่สนใจเรื่องเดียวกัน นวัตกรรมเพื่อชีวิตและทรัพย์สินปลอดภัย นวัตกรรมที่สร้างโอกาสและอาชีพใหม่ ๆ ที่เลี้ยงตัวเองได้ และนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยว ดนตรี และสันทนาการ

ระหว่างดำรงตำแหน่ง นายพันธุ์อาจ ได้ผลักดันให้ NIA มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม โดย NIA ถูกจัดให้เป็นอันดับที่ 1 จากผลการสำรวจ 2022-2023 Thailand’s Most Admired Company ในกลุ่ม “องค์การมหาชน” (นวัตกรรม + เทคโนโลยี) ที่ได้รับความเชื่อมั่น การจดจำ และการยอมรับสูงสุดในเชิงภาพลักษณ์ รวมถึงความพึงพอใจในการให้บริการ และการทำประโยชน์เพื่อสังคม

พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง เกิด 24 มี.ค.2507 ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด

นายพิชัย ประกอบอาชีพทนายความตั้งแต่ พ.ศ.2529 เป็นต้นมา เคยเป็นอาจารย์พิเศษคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ และเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ธกส.เชียงใหม่ ที่ปรึกษากฎหมายสหกรณ์การเกษตรดอยหล่อ เชียงใหม่ และที่ปรึกษากฎหมายนายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้

เคยลงสมัครรับเลือกตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี พ.ศ.2539 สังกัดพรรคความหวังใหม่ ร่วมกับอำนวย ยศสุข อดีต ส.ส. และนายอินสอน บัวเขียว อดีต ส.ส. แต่ได้รับเลือกตั้งเพียงคนเดียวคือนายอำนวย ยศสุข

ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปี พ.ศ.2551 ได้รับคะแนน 171,090 คะแนน ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา จ.เชียงใหม่ และรับตำแหน่งประธานกรรมาธิการแรงงานและสวัสดิการสังคมในวุฒิสภาไทย ชุดที่ 10

ต่อมาการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2563 ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยการสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย จนสามารถเอาชนะจากนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้สำเร็จ

รายงาน:ทีมศูนย์ข่าวภาคเหนือ