รวมกระทั่งพรรคภูมิใจไทย ที่สุดท้ายต้องมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี จากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ประมุขบ้านใหญ่อุทัยธานี เป็นลูกสาว น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ที่ถูกระบุว่า เป็นคณะทำงานนายชาดาอยู่ก่อนแล้ว แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และเป็นรัฐมนตรีในกระทรวงเดียวกัน แต่บอกไม่รู้จัก น.ส.ซาบีดา
ทำให้ต้องดูเรื่องโหวงเฮ้งแทน โดยอ้างว่า ลูกสาวนายชาดามีโหงวเฮ้งดี เหมาะจะนั่งรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย
แต่ไม่มีใครในพรรคภูมิใจไทย หรือแม้แต่ในพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคแกนหลักในรัฐบาล ออกโรงชี้แจงปมปัญหา ที่ทำให้นายชาดาต้องถอยฉากเป็นเรื่องอะไร จนต้องส่งลูกสาวไปนั่งเป็น รมต.ของพรรคแทน ทั้งที่เชื่อว่า คนทั่วไปอยากจะทราบ
ไม่ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ กรณี 2 รัฐมนตรี ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า อาจติดปัญหาคุณสมบัติ โดยเฉพาะนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เรียกร้อง ให้ตรวจเข้มคุณสมบัติ หลังเคยแจ้งถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ถึง 120 ไร่ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.
โดยมีการอ้างถึง รายงานของ ป.ป.ช. มีรายชื่อนักการเมืองอยู่ระหว่างการตรวจสอบ 28 คน เนื่องจากเคยแจ้งครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. และถือเอกสาร ภ.บ.ท.5 มีชื่อนายเฉลิมชัย รวมอยู่ด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2551 นายเฉลิมชัยได้เคยแจ้งรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินว่า ครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 120 ไร่
ต่อมาในปี 2553 ที่นายเฉลิมชัย มีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กลับไม่มีการแจ้งว่า มีการครอบครองที่ดินดังกล่าว รวมทั้งในครั้งต่อ ๆ มา
ส่วนรัฐมนตรีโควตาพรรคเพื่อไทย หลังมีฝุ่นตลบวงในไม่น้อย นายภูมิธรรม เวชยชัย ยังนั่งควบ 2 ตำแหน่ง คือ รองนายกฯ กับรัฐมนตรีกลาโหม แทนนายสุทิน คลังแสง ที่ถึงเวลาต้องถูกปรับออก
แม้จะมีความพยายามจากนายทหารเก่าบางส่วน หวังปลุกทหารต่อต้าน เพราะเคยเป็นอดีตนักศึกษาที่เคยเคลื่อนไหวกับพรรคคอมมิวนิวสต์แห่งประเทศไทย (พ.ค.ท.) หลังเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 จึงมีอุดมการณ์ขัดแย้งกับทหารและกองทัพอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น แต่ไม่บรรลุผล
โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เป็นผู้สมหวังได้เข้าแทนที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แต่มีคนที่ผิดหวัง คือนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่ต้องหลุดจาก ครม.แม้จะมีข่าวว่า มีความพยายามวิ่งล็อบบี้ ผ่านอดีตนายกฯ หญิง ที่ลอนดอนอย่างเต็มที่
เพราะการเตรียมการตั้ง ครม.แพทองธาร หนนี้ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ผู้เป็นแม่ของ น.ส.แพทองธาร เป็นโต้โผสำคัญ ลงไปกำกับดูแลเอง รวมถึงการตรวจสอบคุณสมบัติ ว่าที่รัฐมนตรีทุกคน ทุกพรรคอย่างละเอียดยิบ และเป็นคนแอปพรูฟ หรือให้ความยินยอมเห็นชอบคนสุดท้าย ก่อนให้ น.ส.แพทองธาร ลงนามแต่งตั้งในฐานะนายกฯ
ที่สร้างเซอร์ไพรส์เล็ก ๆ คือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ได้นั่งควบรองนายกฯ อีกตำแหน่งหนึ่ง ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่เคยถูกมวลชนคนเสื้อแดงต่อต้าน การมีชื่อใน ครม.มาตั้งแต่สมัย "เศรษฐา 1" โดยอ้างว่ามีชื่อเกี่ยวข้องกับการปราบปรามคนเสื้อแดง
แต่ครั้งนี้ไม่มีปฏิกิริยาถูกคัดค้าน ได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วยกลาโหม แบ่งเบาภารกิจของนายภูมิธรรม แม้ในอีกด้านหนึ่งจะถูกตั้งข้อสังเกตว่า เท่ากับสะท้อนการเจรจาประสานประโยชน์กันลงตัวระหว่าง 2 กลุ่มขั้วอำนาจ คือขั้วรัฐบาลเดิมสมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับขั้วอำนาจปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นเพียงเสมือนจุดเริ่มต้นของรัฐบาลชุดใหม่ ที่เตรียมเข้าบริหารประเทศอย่างเป็นทางการเมื่อการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเสร็จสิ้นลง แต่ทว่าการถูกจับจองกฐินเดินหน้าร้องเรียน ดังที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้ลั่นคำไว้ กำลังจะเริ่มต้นขึ้นเช่นกัน
จะเป็นโอกาสหรือทุกขลาภ อีกไม่นานจะได้รู้กัน
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส