"ทรัมป์" ลั่นไม่ดีเบตรอบ 2 อ้างมีชัยเหนือ "แฮร์ริส" สวนทางผลโพล

ต่างประเทศ
13 ก.ย. 67
07:40
339
Logo Thai PBS
"ทรัมป์" ลั่นไม่ดีเบตรอบ 2 อ้างมีชัยเหนือ "แฮร์ริส" สวนทางผลโพล
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ทรัมป์" อ้างคว้าชัยบนเวทีดีเบตและประกาศจะไม่ดีเบตกับ "แฮร์ริส" เป็นรอบที่ 2 ซึ่งสวนทางกับผลสำรวจความคิดเห็นที่ส่วนใหญ่มองว่าแฮร์ริสทำผลงานได้เหนือกว่า

เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และตัวแทนรีพับลิกันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดี เปิดเผยผ่าน X ว่า ผลสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาชนะคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คู่ชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากเดโมแครต ในการดีเบตเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา

พร้อมประกาศว่า เขาจะไม่ขึ้นประชันวิสัยทัศน์ครั้งที่ 3 หลังจากขึ้นเวทีกับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และแฮร์ริสไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการดีเบตระหว่างเขากับแฮร์ริสอีกต่อไป นอกจากนี้ยังระบุอีกว่า แฮร์ริสควรกลับไปโฟกัสกับสิ่งที่ควรทำในเกือบ 4 ปีที่ผ่านมาในฐานะรองประธานาธิบดี

ขณะที่แฮร์ริสซึ่งกำลังเดินสายหาเสียงที่รัฐแคโรไลนา กล่าวภายหลังการประกาศของทรัมป์ว่า เธอเชื่อว่าผู้สมัครควรจะต้องขึ้นเวทีดีเบตอีกครั้ง ถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำเพื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

อ่านข่าว : ผลโพลชี้ "แฮร์ริส" คว่ำ "ทรัมป์" ดีเบตแรกชิง ปธน.สหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีดีเบตรอบแรกกับ คามาลา แฮร์ริส เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2567

โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีดีเบตรอบแรกกับ คามาลา แฮร์ริส เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2567

โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีดีเบตรอบแรกกับ คามาลา แฮร์ริส เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2567

การประกาศว่าตนเองมีชัยเหนือแฮร์ริสของทรัมป์ สวนทางกับผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของ Reuters/Ipsos ชี้ว่า ขณะนี้แฮร์ริสมีคะแนนนำทรัมป์ 47% ต่อ 42% ในศึกเลือกตั้งปลายปี 2024 หลังเธอทำผลงานได้เหนือกว่าทรัมป์บนเวทีการประชันวิสัยทัศน์นัดประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ซึ่งตัวเลขนี้สูงกว่าการสำรวจความคิดเห็นเมื่อวันที่ 21-28 ส.ค.เล็กน้อย

ซึ่งบรรดาผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ระบุว่าได้ข่าวเกี่ยวกับการดีเบตอยู่บ้าง 53% มองว่าแฮร์ริสชนะ และมีเพียง 24% มองว่าทรัมป์เหนือกว่าในเวทีดีเบต ส่วนที่เหลือยังไม่แสดงความคิดเห็นหรือมองว่าไม่มีใครชนะใคร ขณะที่ 52% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ติดตามการดีเบต มองว่าทรัมป์เสียท่าและดูไม่เฉียบคม ส่วน 21% มองว่าเป็นฝ่ายแฮร์ริสมากกว่าที่ดูไม่ค่อยหลักแหลม

นอกจากนี้ชาวรีพับลิกันจำนวนมากยังไม่ค่อยเชื่อมั่นในผลงานของทรัมป์มากนัก โดยมีชาวรีพับลิกันเพียง 53% มองว่าทรัมป์ชนะ ขณะที่ 91% ของชาวเดโมแครตมองว่าแฮร์ริสชนะในศึกดีเบตครั้งนี้ นอกจากนี้ 31% ในหมู่ชาวรีพับลิกันมองว่าไม่มีใครชนะ และ 14% มองว่าแฮร์ริสทำได้ดีกว่า

หลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งปลายปีนี้ ซึ่งทำผลงานได้ไม่ดีบนเวทีดีเบตกับทรัมป์เมื่อปลายเดือน มิ.ย. ทำให้ขณะนี้ทรัมป์เป็นผู้สมัครที่มีอายุมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ และผลสำรวจพบว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 52% มองว่าทรัมป์แก่เกินไปที่จะทำงานในรัฐบาล เทียบกับ 7% ที่คิดแบบเดียวกันนี้กับแฮร์ริส

อีกทั้งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งส่วนใหญ่ให้คะแนนแฮร์ริสดีกว่าทรัมป์ในเรื่องการวางตัว และเมื่อถามว่าใครดูสง่างามกว่ากัน พบว่า 56% ของคนที่ติดตามการดีเบตจะเทคะแนนให้แฮร์ริส และมีเพียง 24% ที่เอนไปทางทรัมป์ โดย 49% ระบุว่าแฮร์ริสดูเหมือนเป็นคนที่จะรับฟังและเข้าใจความกังวลต่าง ๆ ของประชาชน และเรื่องนี้ทรัมป์ได้ไปแค่ 18%

อ่านข่าว

25 ก.ย.กดปุ่มดิจิทัลวอลเล็ต 14.5 ล้านคน เฟส 2 รอก่อน

สภาพอากาศวันนี้ พิกัด 19 จว.อีสาน รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก

"แม่สาย" น้ำท่วมหนัก คำถามใหญ่แจ้งเตือนภัยหน้าที่ใคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง