การกลับมาของ 2 กุมาร เมื่อ “บิ๊กป้อม” ปรับกลยุทธ์

การเมือง
18 ก.ย. 67
17:23
132
Logo Thai PBS
การกลับมาของ 2 กุมาร เมื่อ “บิ๊กป้อม” ปรับกลยุทธ์
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ในหนังสือ “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” ที่เพื่อนพ้องน้องพี่จัดทำขึ้น เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อ 11 ส.ค.2565 และต่อมา ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กแฟนเพจ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ General Prawit Wongsuwon

หนังสือเล่มนี้ สะท้อนภาพการเป็นตัวตนของ “บิ๊กป้อม” ได้อย่างดีในแทบทุกด้าน ทั้งความผูกพันกับแม่ การเป็นนักชิมและชอบทำอาหาร รวมทั้งในฐานะนายทหารอาชีพ ที่ผ่านสมรภูมิมาอย่างโชกโชน นับตั้งแต่เทือกเขาภูพานในภารกิจปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์

รวมถึงพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ที่มีการปะทะรุนแรงลำดับต้น ๆ ในอดีต และเป็นนายทหารฝ่ายยุทธการที่บ้านห้วยโกร๋น จ.น่าน หรือแม้แต่สมรภูมิที่ไซ่ง่อน ประเทศเวียดนาม ในสังกัดกองพลเสือดำที่มี พล.อ.เสริม ณ นคร เป็นผู้บัญชาการกองพล ขณะนั้น

ทุกสมรภูมิ “บิ๊กป้อม” บอกว่า จะอยู่กับกองร้อยข้างหน้าตลอด จะไม่อยู่ข้างหลังลูกน้อง

มีโควตคำพูด “พลาดไปก็คือตายในทุกพื้นที่ ไม่มีใครเก่งหรือใครไม่เก่ง ขึ้นอยู่กับยุทธวิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในขณะนั้น จะบอกว่าตรงนั้นหนักตรงนี้ไม่หนัก ไม่มี หรือกำลังมากหรือน้อยก็คือตายเหมือนกัน”

และหนังสือยังมีบทสรุปด้วยว่า “บิ๊กป้อม” ผ่านประสบการณ์การรบที่ดุเดือดทั้งในและนอกประเทศด้วยความมุ่งมั่น เสียสละ ไม่ว่าจะเป็นการรบในแบบหรือนอกแบบ ในฐานะนักรบนิรนาม

เป็นนัยสะท้อนในทีถึงการให้ความสำคัญกับการวางแผน ยุธศาสตร์ และยุทธวิธีในการรบ ของ “บิ๊กป้อม” ที่จะไม่ยอมแพ้

ไม่ต่างจากที่ได้เห็นยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน ของพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ ในหลากหลายวิธีการผสมผสานกัน ในสภาส่ง สส.ร่วมอภิปรายตรวจสอบรัฐบาล และส่ง สส.2 คน ไปเป็นวิปฝ่ายค้าน ขณะที่งานนอกสภา ได้เห็นการขยับเปิดเกมรุกตอบโต้คนแบบไม่ลดราวาศอก แม้จะโดนเปิดคลิปเสียง 4 คลิปที่ล้วนแล้วหวังดิสเครดิต “บิ๊กป้อม” ทั้งสิ้น

ด้านหนึ่งมือกฎหมายและเลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ยื่นฟ้องทั้งสื่ออาวุโส ที่นำคลิปเสียงมาเปิด และผู้บริหาร ช่อง 9 อสมท. 3 คดี คือ ข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง คดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท

และคดีอาญา กรณีดักฟังเสียง โดยอ้างถึงความผิดต่อประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.ฉบับที่ 21 ที่ห้ามดักฟังโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอื่นใด ลงนามโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคปค. เดือนกันยายน ปี 2549 ที่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรัฐบาลใดยกเลิกประกาศดังกล่าว ยังมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย

เท่ากับสะท้อนเหลี่ยมมุมและ “ความเขี้ยว” ทางกฎหมายที่ไม่ธรรมดาของนายไพบูลย์ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับคลิปเสียง มีข่าววงในว่า มอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.น้องชาย ใช้กลไกและบริวารเครือข่ายที่มีอยู่สืบหา ไม่เพียงที่มาของคลิป แต่ยังรวมถึงคนกลางที่ประสานจนคลิปถูกเผยแพร่

ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทำหน้าที่ยื่นเรื่องร้องเรียนแทบจะเป็นรายวัน ทั้งต่อ กกต.และป.ป.ช. เป้าหมายอยู่ที่นายกฯคนใหม่ น.ส.แพทองธาร ที่เป็นทายาททางการเมืองและเป็น “ไข่ในหิน” ของนายทักษิณ ชินวัตร คู่แค้นคนสำคัญของ “บิ๊กป้อม” และเพื่อหวังยุบพรรคเพื่อไทย

ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้เห็นการกลับมาของ “2 กุมาร” นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล “ประยุทธ์ 1” ทั้งคู่เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคคู่แรก ของพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระดับต้นๆ

เพราะเป็นอดีตทีมงานของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจหลายรัฐบาล จับมือกับนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีคลังอีกคน ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร คำร้องเรียน รวมทั้งข้อเสนอจากทุกภาคส่วน เพื่อสกรีนส่งต่อให้สส. และสมาชิกของพรรคนำไปขับเคลื่อนหรือดำเนินการ ทำหน้าที่ “ฝ่ายค้านเชิงรุก”

เท่ากับดึงเอามือดีของพรรคกลับมาทำงานด้านข้อมูลในเชิงลึกควบคู่กันไป ลบข้อครหาปฏิบัติการแบบ “นิติสงคราม” หรือการเดินหน้าฟ้องร้องดะไปทั่วอย่างเดียว

แต่ทำตามกลไกลการตรวจสอบโดยระบบรัฐสภา ถือเป็นการเปิดเวทีให้มือดีอย่าง 2 กุมาร และนายธีระชัย ได้กลับมาโชว์ผลงาน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ แข่งกับคณะที่ปรึกษา 5 คน ที่นำโดยนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ที่เคยโด่งดังจาก “ทีมบ้านพิษณุโลก” สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ในอดีต ที่สร้างผลงาน”เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” ด้วย

เป็นกลยุทธ์ใหม่ของ”บิ๊กป้อม” ที่น่าจับตามองไม่น้อย

วิเคราะห์โดย ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : รัฐล้มเหลว? สัญญาณแจ้งเตือนภัยพิบัติ รับมืออุทกภัยล่วงหน้า

ปภ.เผย 10 จังหวัดน้ำยังท่วม กระทบมากกว่า 2.8 หมื่นครัวเรือน

จับตา Rain bomb ฝนสุดขั้วถล่ม กทม.เสี่ยงน้ำขังบางจุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง