เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2567 นายเอกราช ช่างเหลา สส.พรรคภูมิใจไทย จำเลยในคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์ฯ สหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ขอนแก่น พร้อมทนายคนใหม่ ชี้แจงต่อศาล ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลจังหวัดขอนแก่นกำหนดให้นายเอกราช นำหลักทรัพย์มูลค่า 130 ล้านบาทมาวางประกัน หรือนำเงิน 100 ล้านบาทชำระค่าเสียหายให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ ภายในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาที่กำหนด นายเอกราชยังไม่ได้ดำเนินการตามที่ศาลสั่ง
ก่อนกระบวนการพิจารณา จำเลยได้ขอถอนคำให้การเดิม เปลี่ยนเป็นปฏิเสธ โดยอ้างว่าเงินที่นำออกไปได้ซื้อที่ดินแล้วจดจำนองเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันหนี้ให้สหกรณ์ฯ จำเลยมีเจตนาคืนเงินมาตลอด ทนายความชุดเดิมจึงแนะนำให้สารภาพ ซึ่งโจทก์และโจทก์ร่วมคัดค้าน ให้เหตุผลว่ามีการสืบพยานไปหมดแล้วจะทำให้รูปคดีเสียหาย
ขณะที่จำเลยแถลงต่อศาลว่า ถูก ปปง.ยึดทรัพย์ที่ดิน 3 แปลงขายทอดตลาด เปิดประมูลครั้งแรกไม่มีใครสู้ราคา เพราะราคาสูงกว่า 500 ล้านบาท จึงประสานกับ ปปง.ให้แยกแปลงขาย หากราคารวมไม่เกิน 300 ล้านบาทจะมีคนเข้าสู้ราคา ซึ่งจำเลยประสานงานไว้แล้วและจำเลยขอให้โจทก์รอเงินส่วนนี้ แต่โจทก์ร่วมแถลงว่าจำเลยผิดข้อตกลงมาแล้ว 2 ครั้ง ที่ประชุมใหญ่สหกรณ์ฯ มีมติขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยให้การปฏิเสธ เพราะไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ตามข้อตกลงได้ เป็นการกระทำเพื่อประวิงเวลา จึงไม่อนุญาตให้ถอนคำให้การและไม่รับคำให้การใหม่ไว้ในกระบวนการพิจารณา อีกทั้งศาลต้องส่งให้อธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 พิจารณา จึงนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 18 ธ.ค.นี้
นายอนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ศาลได้นัด 2 ฝ่ายเข้ามารับฟัง เพราะจำเลยไม่สามารถนำเงินมาวางศาลได้ตามที่กำหนด และจำเลยได้นำเอกสารชี้แจงต่อศาล โดยอ้างว่ามีคนมาติดต่อซื้อที่ดิน 1 แปลงในราคา 300 ล้านบาท ซึ่งหลังจากได้เงินก็จะนำมาชำระภายใน 18 ธ.ค.นี้ แม้ที่ผ่านมาจำเลยได้นำเงินมาวางศาลประมาณ 100 ล้านบาท ก็ยังไม่พอกับดอกเบี้ยและยังคงเป็นหนี้เงินต้นกว่า 430 ล้านบาทเท่าเดิม
นายเอกราช ยืนยันว่า เงินที่เอาออกไปจากสหกรณ์ฯ นำไปซื้อที่ดินเพื่อค้ำประกันหนี้ให้สหกรณ์ฯ และจะนำเงินมาชำระให้ครบตามจำนวน แต่อยู่ระหว่างประกาศขายที่ดินประมาณ 600 ล้านบาทและเตรียมแถลงข่าวในรายละเอียดต่าง ๆ ในวันที่ 10 ต.ค.นี้
อ่านข่าว
ตำรวจนับ 10 นายคุม "สันติ"ฝากขังค้านประกันตัว
จับ "ใบหนาด" หลอกขายทองออนไลน์ เสียหาย 85 ล้านบาท
โอกาส-รายได้-ความเสี่ยง ? เรื่องจริงที่ต้องรู้ก่อนเข้าทีม "ขายตรง"