- เพจดังแฉ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" ลวงยายทำพิธีสูญเงิน 66 ล้าน
- “ร็อคเก็ตทึ” Deepfake Song ล้อเลียน “APT.” จากพี่น้องตระกูลคิม
ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์จีนโบราณเกี่ยวข้องกับการจัดวางสิ่งต่าง ๆ ให้เกิดความสมดุลและกลมกลืนกับธรรมชาติ คำว่า "ฮวงจุ้ย" แปลว่า "ลมและน้ำ" มีรากฐานจากลัทธิเต๋าที่เชื่อในพลังชีวิต หรือ "ชี่" ซึ่งประกอบด้วยพลัง "หยิน และ หยาง" ที่ต้องมีความสมดุลกันเพื่อให้ "ชี่ที่ดี" ไหลเวียน จึงเชื่อกันว่า การจัดฮวงจุ้ยจึงช่วยนำโชคลาภ สุขภาพ และความสำเร็จมาให้
หลักการฮวงจุ้ยถูกใช้อย่างแพร่หลายมากว่า 4,000 ปี ทั้งในการเลือกที่ตั้งสุสาน บ้าน และเมือง ปัจจุบัน ฮวงจุ้ยยังนิยมใช้ในการจัดตกแต่งบ้าน เช่น การวางสิ่งของใกล้หรือห่างจากประตูและหน้าต่าง ซึ่งเป็นจุดที่พลังชี่เข้าออกได้ง่าย และการใช้ธาตุทั้ง 5 (น้ำ ไม้ ไฟ ดิน และ โลหะ) เพื่อปรับพลังในห้อง
ศาสตร์จีนที่ถูกห้ามโดยจีน
ในปี ค.ศ.1949 พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CCP) ได้สั่งห้ามการปฏิบัติฮวงจุ้ย โดยมองว่าฮวงจุ้ยเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ ส่งผลให้ในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม (1966-1976) ผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยถูกข่มเหง อย่างไรก็ตาม ฮวงจุ้ยยังคงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในฮ่องกงและไต้หวัน หลังการปฏิวัติวัฒนธรรมสิ้นสุดลง จีนเริ่มผ่อนปรนต่อการปฏิบัติฮวงจุ้ยมากขึ้น แต่ยังมีการจำกัดสำหรับธุรกิจหรือสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่มีส่วนร่วมกับการปฏิบัตินี้
ฮวงจุ้ยเริ่มเป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ริชาร์ด นิกสัน ไปเยือนจีนในปี 1972 ต่อมาในช่วงยุค 1980 โทมัส หลิน หยุน ได้ก่อตั้ง "สำนักหมวกดำ" (Black Hat Sect) ที่ผสมผสานระหว่างฮวงจุ้ยและพุทธตันตระในเมืองเบิร์กลีย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยรูปแบบนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในตะวันตก
ไทยแลนด์ดินแดนแห่งโชคลาง
คนไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลางที่ซับซ้อนและหลากหลาย ซึ่งสะท้อนถึงวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อทางศาสนาในสังคม
ความเชื่อเกี่ยวกับตัวเลข เช่น เลข 9 ที่ถือเป็นเลขมงคล ในขณะที่เลข 4 ซึ่งมีเสียงคล้ายคำว่า "ซี่ ที่แปลว่าตาย" ถือเป็นเลขต้องห้าม การเลือกวันเวลาที่เหมาะสมในการทำกิจกรรมสำคัญ เช่น การเปิดธุรกิจใหม่ การแต่งงาน หรือการสร้างบ้าน มักจะมีการปรึกษาหมอดูหรือผู้เชี่ยวชาญด้านดวงชะตาเพื่อตรวจสอบว่าเป็นวันดีหรือไม่ การไหว้พระ กราบไหว้เทพเจ้า เช่น พระพิฆเนศ หรือพระแม่ลักษมี เพื่อขอพรและโชคลาภ เช่น การตั้งโต๊ะบูชาในบ้านซึ่งจะต้องวางของมงคลตามตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความสมดุล
เปิดปัจจัยทำไมคนไทยเชื่อ "ฮวงจุ้ย"
อิทธิพลจากวัฒนธรรมจีน
การอพยพเข้ามาของชาวจีนที่เข้ามาตั้งรกรากในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงสมัยอยุธยาและธนบุรี ทำให้วัฒนธรรมจีน รวมถึงความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ได้แพร่หลายเข้ามาในสังคมไทยและผสมผสานเข้ากับความเชื่อดั้งเดิมของไทย ทำให้เกิดเป็นความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ความเชื่อเรื่องโชคลาง
คนไทยมีความเชื่อเรื่องโชคลางและการแสวงหาความเป็นสิริมงคลในชีวิต การนำหลักฮวงจุ้ยมาใช้จึงเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง หลายคนยังเชื่อว่าฮวงจุ้ยสามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในชีวิต เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาความรัก หรือปัญหาด้านการเงิน ได้อีกด้วย
ปัจจัยทางจิตวิทยา
การปฏิบัติตามหลักฮวงจุ้ยจะทำให้ผู้คนรู้สึกมั่นใจว่าได้ทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตราบรื่น การจัดวางสิ่งของตามหลักฮวงจุ้ยทำให้คนรู้สึกว่าสามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เป็นความเชื่อในพลังงานและสิ่งที่มองไม่เห็นรอบตัวได้
ปัจจัยทางสังคม
ความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยมักถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นภายในครอบครัว ทำให้กลายเป็นความเชื่อที่ฝังรากลึก อิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ หนังสือ และอินเตอร์เน็ต ก็มีส่วนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับฮวงจุ้ย ทำให้ความเชื่อนี้แพร่หลายมากขึ้น
ปรับฮวงจุ้ยด้วยตี่จู้เอี๊ยะ
ตี่จู้เอี๊ยะ (地主爷) หมายถึง "เจ้าที่" หรือเทพเจ้าผู้คุ้มครองบ้านและดินแดน ตามความเชื่อของชาวจีน ตี่จู้เอี๊ยะเป็นเทพที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านเรือน คุ้มครองผู้อยู่อาศัยให้มีความสงบสุขและปลอดภัย เป็นผู้เฝ้าปกป้องจากภัยอันตรายและสิ่งชั่วร้ายที่อาจเข้ามารบกวนบ้าน ตี่จู้เอี๊ยะถือเป็นเทพเจ้าที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้คนในบ้านมากที่สุด และเป็นที่เคารพบูชาในแทบทุกบ้านที่มีความเชื่อแบบจีน
"ตี่จู้เอี๊ยะ" จะเน้นการบูชาเจ้าที่เพื่อขอความคุ้มครอง ในขณะที่ "ฮวงจุ้ย" เน้นการจัดวางเพื่อให้พลังงานที่ดีไหลเวียน แต่ทั้ง 2 แนวคิดนี้มีจุดร่วมคือการเสริมสร้างพลังงานที่ดีให้กับบ้านเรือน ความเชื่อทั้ง 2 จึงมักจะถูกนำมาปฏิบัติร่วมกันในบ้านที่มีผู้นับถือศาสนาจีน
บูชาตี่จู้เอี๊ยะสร้างพลังบวกให้บ้าน
ถ้าว่ากันตามความเชื่อ การบูชาตี่จู้เอี๊ยะ ถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมจีนที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน และมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับหลักฮวงจุ้ย การปฏิบัติตามหลักการที่ถูกต้องจะช่วยเสริมสร้างพลังบวกให้กับบ้านและครอบครัว ควรตั้งตี่จู้เอี๊ยะในทิศที่เหมาะสมกับดวงชะตาของเจ้าบ้าน โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ย ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในที่ที่มั่นคง ไม่สั่นคลอน และ ไม่มีอะไรบดบัง ห้ามตั้งตรงข้ามประตูห้องนอน ห้องน้ำ
ตี่จู้เอี๊ยะควรสะอาดเรียบร้อยเสมอ ใช้เครื่องบูชา ธูป เทียน คุณภาพดี ขนม ผลไม้ที่มีสีสันสวยงาม เสิร์ฟน้ำชาร้อนทุกเช้า และสามารถประดับด้วยโคมแดง ของตกแต่งที่เป็นมงคล ในวันเทศกาลทั้งทางศาสนา หรือ วันสำคัญของตนเอง ก็สามารถจัดชุดบูชาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองได้ ตามความเชื่อการบูชาตี่จู้เอี๊ยะจะช่วยเสริมสร้างพลังบวกให้กับบ้านและครอบครัว ช่วยให้ชีวิตมีความสุข สงบ และเจริญรุ่งเรือง เพราะเชื่อกันว่าเทพเจ้าจะคอยปกป้องคุ้มครองผู้อยู่อาศัยจากสิ่งไม่ดี
เทพเจ้าที่ดี ย่อมไม่อยากเห็นลูกหลานต้องเสียเงินเสียทองมากมาย เพื่อมายกเครื่องบูชา หรือปัดเป่าสิ่งไม่ดีให้ ขอเพียงลูกหลานเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนใคร ก็สบายใจแล้ว
ต้องไม่ลืมว่า การบูชาตี่จู้เอี๊ยะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ควรศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องและหลีกเลี่ยงความเชื่อที่ผิด ๆ ไม่ควรหลงใหล เพราะการบูชาตี่จู้เอี๊ยะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น
อ่านข่าวเพิ่ม : เพจดังแฉ "หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง" ลวงยายทำพิธีสูญเงิน 66 ล้าน