ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เลือกตั้งสหรัฐฯ 101 ไขทุกข้อสงสัยศึกใหญ่เส้นทางสู่ทำเนียบขาว

ต่างประเทศ
6 พ.ย. 67
13:06
3,039
Logo Thai PBS
เลือกตั้งสหรัฐฯ 101 ไขทุกข้อสงสัยศึกใหญ่เส้นทางสู่ทำเนียบขาว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ทำไมใช้ลาและช้างเป็นสัญลักษณ์พรรค ตัวเลข 270 คืออะไร นับยังไง ระบบการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เลือกกันแบบไหน ไขข้อข้องใจกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ว่าที่ผู้นำประเทศมหาอำนาจฝั่งตะวันตกของโลก เส้นทางสู่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว

วันเลือกตั้งคือวันไหน ?

กฎหมายของสหรัฐฯ กำหนดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก ๆ 4 ปี และตั้งแต่ปี 1845 เป็นต้นมา การเลือกตั้งทั่วไปจะจัดขึ้นในวันอังคารหลังวันจันทร์แรกของเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ตรงกับวันที่ 5 พ.ย.

เนื่องจากการเลือกตั้งอยู่ภายใต้การดูแลของแต่ละรัฐ ทำให้เวลาเปิด-ปิดของหน่วยเลือกตั้งแตกต่างกันไป โดยหน่วยแรกปิดเวลา 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เริ่มตั้งแต่รัฐอินเดียนาและเคนตักกี ส่วนหน่วยสุดท้ายจะปิดหีบเวลา 01.00 น. ของวันพุธที่ 6 พ.ย. ที่รัฐอลาสกา และมีหลายรัฐที่เปิดให้ลงคะแนนล่วงหน้าทั้งแบบส่งทางไปรษณีย์และด้วยตนเอง

ทำไมวันเลือกตั้งจึงกินเวลาหลายวัน ?

แต่ละรัฐมีการจัดการ การเลือกตั้งแตกต่างกัน เช่น วอชิงตัน โอเรกอน และ ยูทาห์ จัดการเลือกตั้งเกือบทั้งหมดทางไปรษณีย์ซึ่งเริ่มให้คนอเมริกันเลือกตั้งล่วงหน้าหลายสัปดาห์มาแล้ว นอกจากนี้ ทุกรัฐมีระบบการลงคะแนนล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนที่ไม่สามารถมาลงคะแนนในวันเลือกตั้งได้มีโอกาสใช้สิทธิ์

อ่านข่าว : ทุกเสียงมีค่า! NASA พาคะแนนโหวตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมาได้

ผู้สมัครประธานาธิบดีปีนี้มีใครบ้าง ?

ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตคือ รอง ปธน.คามาลา แฮร์ริส โดยมีผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา ทิม วอลซ์ เป็นคู่สมัครรองประธานาธิบดี

ส่วนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันคือ อดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลงสมัครพร้อมกับวุฒิสมาชิก เจดี แวนซ์ จากโอไฮโอ

นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครอิสระ เช่น เชส โอลิเวอร์ จากพรรคเสรีนิยม และ จิลล์ สไตน์ จากพรรคกรีน รวมถึง โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ซึ่งเคยเป็นผู้สมัครอิสระ แต่ได้ให้การสนับสนุนทรัมป์แล้ว

ทำไมแฮร์ริสและทรัมป์ถึงเป็นตัวเลือกหลัก ?

ทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้จัดการเลือกตั้งขั้นต้นในปีนี้ แม้ว่าหลายคนในพรรครีพับลิกันจะเคยคัดค้านทรัมป์หลังจากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้สนับสนุนของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา แต่เขาก็ชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นของพรรคได้ไม่ยาก

สำหรับพรรคเดโมแครต ปธน.โจ ไบเดน เคยนำในการเลือกตั้งขั้นต้น แต่เนื่องจากกังวลเรื่องอายุของเขา (81 ปี) เขาจึงถอนตัวออกจากการเลือกตั้งและสนับสนุน คามาลา แฮร์ริส แทน

เมื่อไหร่เราจะทราบผลการเลือกตั้ง ?

CNN คาดการณ์ว่า "อาจต้องใช้เวลาพอสมควร" ย้อนไปในปี 2020 ตามรายงานของ CNN ระบุว่าใช้เวลา 4 วันหลังวันเลือกตั้งสามารถประกาศผู้ชนะได้ เพราะหลายรัฐมีคะแนนใกล้เคียงกันอย่างมาก ส่วนในปี 2000 ผ่านไป 36 วันหลังการเลือกตั้งก็ยังไม่สามารถประกาสผู้ชนะการเลือกตั้งได้ จนศาลสูงสหรัฐฯ ต้องสั่งยุติการนับคะแนนใหม่ในฟลอริดา

หากปีนี้ผลการเลือกตั้งใกล้เคียงกัน อาจต้องใช้เวลาในการตัดสินเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลายรัฐได้ปรับปรุงระบบการจัดการเพื่อนับคะแนนล่วงหน้าได้เร็วขึ้น จึงอาจทำให้เราทราบผลในคืนวันเลือกตั้ง

อ่านข่าว : อัปเดตผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 "ทรัมป์-แฮร์ริส" ใครคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

นโยบายสำคัญที่คู่ชิงเลือกหาเสียง

หนึ่งในประเด็นหลักคือ "ค่าครองชีพ" หลังโควิด-19 ราคาสินค้าต่าง ๆ เพิ่มขึ้น "ทรัมป์" ใช้จุดนี้จุดประเด็นในคนอเมริกันหวนคิดถึงช่วงเวลาที่ค่าครองชีพถูกลง แม้ว่าแผนของเขาคือการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และอาจส่งผลให้ราคาสินค้าสูงขึ้น แต่นักสำรวจความคิดเห็นระบุว่าเขายังคงได้เปรียบแฮร์ริสในด้านเศรษฐกิจ

นโยบายด้าน "การอพยพ" ก็เป็นอีกเรื่องที่จูงใจผู้สนับสนุนทรัมป์ โดยที่อดีตประธานาธิบดีคนนี้มุ่งมั่นที่จะส่งผู้อพยพที่ข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศ และจะจำกัดการเข้าเมืองอย่างเข้มงวด

สำหรับผู้สนับสนุนแฮร์ริส ประเด็นสำคัญคือ "สิทธิการทำแท้ง" หลังจากศาลสูงที่มีผู้พิพากษาจำนวนหนึ่งซึ่งแต่งตั้งโดยทรัมป์ ยกเลิกคดี Roe v. Wade ทำให้แฮร์ริสมุ่งเน้นประเด็นสิทธิการสืบพันธุ์ในฐานะสิทธิส่วนบุคคล และเธอสัญญาว่าจะปกป้องสิทธิ์ ๆ นี้

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือ "ประชาธิปไตย" ทรัมป์ถูกกระทรวงยุติธรรมกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง หลังจากพยายามเปลี่ยนผลการเลือกตั้งในปี 2020 เรื่องนี้ทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตจำนวนมากไม่ยอมรับเขา ในขณะที่ผู้สนับสนุนรีพับลิกันส่วนใหญ่ ยอมรับบทบาทของเขาในการพยายามไม่ให้ไบเดนเข้าสู่ทำเนียบขาว

ระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำงานอย่างไร ?

แม้จะมีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 150 ล้านคน แต่ว่าผู้ที่เลือกประธานาธิบดีจริง ๆ คือคณะเลือกตั้ง (Electoral College) จำนวน 538 คน ซึ่งจะโหวตในเดือน ธ.ค.-ม.ค.

ประชาชนที่ลงคะแนนเสียง พวกเขากำลังเลือก "คณะผู้เลือกตั้ง" ที่สนับสนุนผู้สมัครที่ชนะการลงคะแนนในรัฐนั้น ๆ

คณะเลือกตั้งจะประชุมและลงคะแนนในวันที่ 17 ธ.ค. และจะมีการนับคะแนนในวันที่ 6 ม.ค.2025 จากนั้นประธานาธิบดีจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.2025

จำนวน "คณะผู้เลือกตั้ง" แต่ละรัฐเป็นอย่างไร ?

จำนวนคณะเลือกตั้งขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในสภาคองเกรสของรัฐนั้น ๆ เช่น รัฐที่มีประชากรมากอย่างแคลิฟอร์เนียมี 54 คะแนน ขณะที่รัฐที่เล็กที่สุดมี 3 คะแนน

แคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 54 คนจากการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2020 พบว่าแคลิฟอร์เนียมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 คนต่อประชากร 732,189 คน โดย มีประชากรมากกว่า 39.5 ล้านคน ถัดไปคือเท็กซัสด้วยคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 40 คะแนน ตามมาด้วยฟลอริดา 30 คะแนน และนิวยอร์ก 28 คะแนน

ส่วนรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุด 6 รัฐจะมีคะแนนเสียงเลือกตั้ง 3 เสียง ได้แก่ อะแลสกา เดลาแวร์ นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา เวอร์มอนต์ และไวโอมิง วอชิงตัน ดี.ซี. ก็มี 3 เสียงเช่นกัน ในรัฐไวโอมิงซึ่งมีประชากรประมาณ 576,850 คน ถือเป็นรัฐที่มีประชากรน้อยที่สุดในประเทศ โดยจะเท่ากับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1 คนต่อประชากร 182,283 คน

ต้องได้กี่คะแนนถึงจะชนะ ?

ต้องได้ 270 คะแนนจาก 538 คะแนนถึงจะชนะการเลือกตั้ง

รัฐที่สำคัญในการเลือกตั้งปี 2024

มีรัฐที่เป็น "รัฐสมรภูมิ" มีทั้งหมด 7 รัฐ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

  1. รัฐสมรภูมิในภาคตะวันตกตอนกลาง (The Blue Wall) จำนวน 3 รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย มิชิแกน และ วิสคอนซิน ซึ่งมีแรงงานจำนวนมาก เคยสนับสนุนพรรคเดโมแครตแต่เริ่มเปลี่ยนไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
  2. รัฐสมรภูมิใน Sun Belt จำนวน 4 รัฐ ได้แก่ แอริโซนา เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา และ จอร์เจีย รัฐเหล่านี้มีประชากรเพิ่มขึ้นและเคยเป็นฐานของพรรครีพับลิกัน แต่เริ่มเปลี่ยนไปในบางส่วน

นอกจากนี้ยังมี 1 คะแนนในเนบราสกาที่เป็นรัฐสมรภูมิ

ถ้าเกิดคะแนนเท่ากันจะทำอย่างไร ?

หากคะแนนเท่ากัน จะมีการเลือกตั้งในสภาคองเกรส โดยแต่ละรัฐจะมี 1 คะแนนในการโหวตเพื่อเลือกประธานาธิบดี ซึ่งปัจจุบันพรรครีพับลิกันคุมสภาอยู่ จึงเป็นไปได้สูงว่าทรัมป์อาจจะได้รับเลือกให้รับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา คนที่ 47 ซึ่งจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 

ทำไมต้องเป็นลาและช้าง ?

สัญลักษณ์ลาและช้างของพรรคการเมืองหลักในสหรัฐอเมริกาเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันตามลำดับ 

ลา (Donkey) ของ พรรคเดโมแครต ถือกำเนิดในช่วงการหาเสียงของแอนดรูว์ แจ็กสัน (Andrew Jackson) ในปี 1828 เมื่อแจ็กสันถูกผู้วิจารณ์เรียกว่า "ลา" (jackass) ซึ่งมีความหมายว่า "ดื้อรั้น" แต่แจ็กสันกลับใช้สัญลักษณ์นี้อย่างภาคภูมิใจเพราะมันสะท้อนถึงความตั้งใจแน่วแน่ของเขาในการต่อสู้เพื่อคนธรรมดา

ต่อมาในปี 1870 นักเขียนการ์ตูนการเมืองชื่อ โธมัส แนสต์ (Thomas Nast) ได้นำสัญลักษณ์ลามาใช้ในการ์ตูนการเมืองในหนังสือพิมพ์ซึ่งช่วยให้สัญลักษณ์นี้แพร่หลายมากขึ้น ลาถูกสื่อถึงความดื้อรั้น ความอดทน และความมุ่งมั่นของพรรคเดโมแครตในการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม

ช้าง (Elephant) ของพรรครีพับลิกัน เกิดขึ้นในปี 1874 โดย โธมัส แนสต์ นักวาดการ์ตูนคนเดียวกันที่วาดลาของพรรคเดโมแครต เขามักวาดการ์ตูนการเมืองตีพิมพ์ในนิตยสาร Harper's Weekly แนสต์ใช้ช้างเพื่อสื่อถึงพรรครีพับลิกันเพราะภาพลักษณ์ของช้างสื่อถึงพละกำลัง มั่นคง และความจริงจัง ช้างยังแสดงถึงความภักดีและการยืนหยัดในจุดยืนของพรรครีพับลิกันที่มักเน้นการอนุรักษ์แบบแผนและระบบที่เป็นอยู่

รีพับลิกัน พรรคที่ครองตำแหน่งประธานาธิบดีบ่อยที่สุด

ในทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันผลัดกันครองตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นหลัก โดยพรรคเดโมแครตซึ่งมีประธานาธิบดี 16 คน "แฟรงคลิน ดี.โรสเวลต์" เป็นผู้ดำรงตำแหน่งที่ยาวนานที่สุด ดำรงตำแหน่ง 4 สมัย ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.1933 - 12 เม.ย.1945 รวมทั้งสิ้น 12 ปี

ส่วนพรรครีพับลิกันมีประธานาธิบดี 19 คน ประธานาธิบดีคนแรกของพรรครีพับลิกัน อับราฮัม ลินคอล์น ได้รับการเลือกตั้งในปี 1860 และนำพาประเทศผ่านสงครามกลางเมือง แน่นอนว่า หาก โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ไปได้ เขาจะกลายเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกันที่เป็นประธานาธิบดี 2 สมัยเป็นคนที่ 2 ต่อจาก จอร์จ ดับเบิลยู บุช

 

อ่านข่าว : 

นักวิเคราะห์ชี้หาก "ทรัมป์" ชนะ ชาวอเมริกันเผชิญการเปลี่ยนแปลง

นักวิชาการประเมินทิศทางเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 "ทรัมป์-แฮร์ริส" คะแนนสูสี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง