การประชันวิสัยทัศน์ที่เป็นการพบกันครั้งแรกของ "คามาลา แฮร์ริส-โดนัลด์ ทรัมป์" กำลังจะเริ่มขึ้นท่ามกลางการจับตาของคนทั่วโลก บางคนมองว่าเป็นการเปิดตัวแฮร์ริสในเวทีระดับประเทศครั้งแรกหลังห่างหายไปตั้งแต่ปี 2563 ขณะที่ทรัมป์ดีเบตมาแล้วอย่างโชกโชนถึง 6 ครั้ง
คามาลา แฮร์ริส สร้างสถิติใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกัน ตั้งแต่นั่งเก้าอี้อัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนียมาจนถึงรองประธานาธิบดี เคยรักษาการประธานาธิบดี 85 นาทีขณะที่ไบเดนส่องกล้องลำไส้ถือเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ดังกล่าว
พูดคุยกับ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์การหาเสียงในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ต่างหาเสียงโจมตีใส่กันและกันอย่างดุเดือด หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศถอนตัวจากการแข่งขัน
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กักตัวจากการป่วยเป็นโควิด-19 อีกรอบ และต้องพักการเดินสายหาเสียง แต่อีกด้านหนึ่ง วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งเราจะได้รับฟังสุนทรพจน์ของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังถูกลอบยิง ในที่สุดสุนทรพจน์ที่ว่ากันว่า รื้อใหม่ทั้งหมดหลังเฉียดตายในเหตุพยายามลอบสังหารเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ทำให้เป็นที่สนใจมากกว่าอดีตผู้นำคนนี้จะเปลี่ยนแนวไปสักแค่ไหน ท่ามกลางแรงกดดันในฝั่งเดโมแครตต่อโจ ไบเดน ที่หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ
กระแสกดดันให้ผู้นำสหรัฐฯ ถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้านจอร์จ คลูนีย์ นักแสดง ผู้กำกับ และผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดัง ได้ตีพิมพ์บทความลงในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ The New York Times บทความนี้มาชื่อ ว่า I Love Joe Biden But We Need a New Nominee หรือ ผมรักโจ ไบเดน แต่เราจำเป็นต้องมีผู้แทนพรรคคนใหม่
วานนี้ (5 มี.ค. 67) สหรัฐฯ จัดเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือเรียกว่า ซูเปอร์ ทิวส์เดย์ (Super Tuesday) โดยพบว่า โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ คนปัจจุบัน และ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตปธน.สหรัฐฯ ต่างคว้าชัยชนะปูทางสู่การเป็นตัวแทนพรรค
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเข้มข้นขึ้นไปอีก หลังคณะผู้พิพากษาศาลสูงวินิจฉัยให้รัฐต่าง ๆ ทั่วประเทศ ไม่สามารถจำกัดสิทธิ์ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในการลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีได้ หลังจากเมื่อปี 2023 ศาลสูงรัฐโคโลราโดสั่งห้ามไม่ให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ ลงเลือกตั้งขั้นต้น เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกัน เนื่องจากมีส่วนร่วมในการบุกอาคารรัฐสภาวันที่ 6 ม.ค. 2021 ขัดต่อบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 14 วรรค 3 ในรัฐธรรมนูญ ขณะที่คำวินิจฉัยของคณะผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ ครั้งนี้ ชี้ว่าสภาคองเกรสเท่านั้น ที่มีอำนาจตัดสิทธิ์ให้ผู้สมัครขาดคุณสมบัติ