เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2567 สถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน เผยแพร่ภาพการพบปะหารือของหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ที่เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน
นายกรัฐมนตรีจีนใช้โอกาสนี้ย้ำว่า เมียนมาเป็นส่วนสำคัญของการทูตในละแวกบ้านของจีนมาโดยตลอด และจีนจะสนับสนุนเมียนมาในการเลือกเส้นทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับเงื่อนไขในประเทศของตนอยู่เสมอ และพร้อมที่จะร่วมมือกับเมียนมาเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจจีน-เมียนมา นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการศึกษา วัฒนธรรมละการท่องเที่ยวและร่วมกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน
ขณะที่ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ขอบคุณจีนสำหรับความช่วยเหลือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการรับมือภัยพิบติทางธรรมชาติ พร้อมระบุว่าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรับรองความปลอดภัยของบุคลากร สถาบันและโครงการต่าง ๆ ของจีนที่อยู่ในเมียนมา
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง มิน อ่อง หล่าย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่และบุคคลสำคัญทางธุรกิจของเมียนมา เดินทางถึงเมืองคุณหมิง มณฑลยูนนาน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเมียนมาเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ครั้งที่ 8
ถือเป็นการเยือนจีนเป็นครั้งแรกของผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา ตั้งแต่นำกองทัพก่อรัฐประหารโค่นอำนาจรัฐบาลพลเรือนที่นำโดย ออง ซาน ซู จี เมื่อเดือน ก.พ.2021 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเมียนมาตกสู่ห้วงแห่งความรุนแรง กองทัพฝ่ายรัฐบาลปะทะกับกองกำลังฝ่ายต่อต้านอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริเวณพรมแดนระหว่างเมียนมากับจีน โดยขณะนี้รัฐบาลเมียนมาเสียพื้นที่ให้แก่กลุ่มต่อต้านเป็นจำนวนมาก
การได้รับคำเชิญให้ไปเยือนจีนครั้งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญของ มิน อ่อง หล่าย ถึงแม้จะไม่ใช่การเยือนอย่างเป็นทางการของประมุขแห่งรัฐก็ตาม เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าจีนยังเห็น มิน อ่อง หล่าย เป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในเมียนมา
เป็นที่ทราบกันว่าจีนกำลังกดดันให้ มิน อ่อง หล่าย กำหนดการเลือกตั้งเพื่อยุติการปกครองแบบเผด็จการทหาร เนื่องจากต้องการให้การค้าข้ามพรมแดนกลับมาฟื้นตัวและปกป้องแผนการลงทุนของจีนในเมียนมา ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า จีนมีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่รัฐบาลทหารจะล่มสลาย รวมถึงการอาจเข้ามามีอิทธิพลของชาติตะวันตกต่อกลุ่มติดอาวุธที่ต่อต้านรัฐบาลทหาร
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า จีนแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการให้เมียนมาประสบความสำเร็จ ขณะที่บางส่วนมองว่าแม้จีนยังคงลังเลที่จะแสดงการรับรองผู้นำเมียนมาอย่างเป็นทางการอย่างชัดเจน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร แต่สิ่งนี้อาจเปลี่ยนไป โดยจีนได้เปลี่ยนนโยบายและสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมามากขึ้น แต่ไม่ใช่เพราะจีนมีทัศนคติที่ดีต่อระบอบการปกครองหรือตัวผู้นำมากขึ้น แต่เป็นเพราะกังวลเกี่ยวกับการล่มสลายของรัฐบาลทหารเมียนมา
อ่านข่าว
ผู้นำโลกยินดี "ทรัมป์" แพทองธารพร้อมร่วมงานสานสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ
สัญญาต้องเป็นสัญญา! 7 สิ่งที่ "ทรัมป์" จะทำเมื่อเป็นผู้นำสหรัฐฯ
"แฮร์ริส" ยอมรับความพ่ายแพ้เลือกตั้งสหรัฐฯ ยินดีกับ "ทรัมป์"