วันนี้ (11 พ.ย.2567) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า วันนี้จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่) และ พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงและการตลาดแบบตรง หลังจากที่ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งสำนวนข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ รวมถึงมีการสอบปากคำสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับพฤติกรรมในการดำเนินกิจการของ "ดิ ไอคอน กรุ๊ป" จนพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นำมาสู่การที่ดีเอสไอมีมติในการแจ้งข้อกล่าวหาบอสทั้ง 18 คนและนิติบุคคลเพิ่มเติมในความผิดฐานแชร์ลูกโซ่ และความผิดพ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงฯ
ร.ต.อ.วิษณุ ระบุอีกว่า การเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ มีการประสานกับ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ในการจัดสรรผู้ต้องหาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องทีมทนายในการร่วมสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางดีเอสไอได้มีการประสานไว้แล้วเช่นกัน
โดย ร.ต.อ.วิษณุ ยืนยันว่า การจะข้อหาแชร์ลูกโซ่ มีองค์ประกอบความผิดตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังและ สคบ. ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน เช่น การประกอบกิจการเป็นลักษณะผิดกฎหมาย ไม่สามารถที่จะนำเงินมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายจริงหรือไม่ โดยมีการสอบสวนไปถึงแผนประทุษกรรม งบการเงิน การวิเคราะห์เส้นเงิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์หลังบ้าน จนเห็นภาพรวมของคดี เป็นการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหา
ส่วนที่ทางฝั่งผู้ต้องหาต่อสู้ว่า มีสินค้าอยู่ ก็เป็นสิทธิ์ผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งหากทนายฝ่ายนั้นมีข้อเท็จจริงตรงไหนที่มีประโยชน์ ดีเอสไอก็พร้อมรับฟัง
สำหรับประเด็นการสอบสวนบอสดาราและบอสคนอื่นๆ จะแตกต่างกันหรือไม่เพราะว่าลักษณะพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ร.ต.อ.วิษณุ มองว่า ทั้งหมดมีกระบวนการของการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งแม้ว่าทุกคนอาจจะไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดพร้อมกัน แต่เมื่อเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหน้าที่ของแต่ละคน เมื่อรวมกันแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวกันในการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นการฉ้อโกงประชาชน
อ่านข่าว :
11 พ.ย.แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง 18 ผู้ต้องหาดิไอคอน
รอง ผบช.ก. ยันคดีคลิปเสียง "ดิไอคอน" คืบหน้า อยู่ระหว่างสอบเส้นเงิน
DSI จ่อสอบ 18 ผู้ต้องหาดิไอคอนในเรือนจำ ยึดทรัพย์แล้ว 320 ล้าน