ความคืบหน้ากรณีผู้ก่อเหตุ 5-7 คน พร้อมอาวุธปืนและมีด บุกเข้าไปในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สน.2 (วาริช-พรรณนา) บ้านกุดตะกาบ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร ทำร้ายเจ้าหน้าที่ 3 คนจับมัดมือมัดเท้า ปล้นไม้พะยูงของกลาง 20 ท่อนมูลค่า 800,000 บาท และปืนหลวง 2 กระบอกเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา
วันนี้ (12 พ.ย.2567) นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ขณะนี้ตำรวจได้ขอศาลออกหมายจับ ส.อ.เทพตะวัน หรือ อาท สุริยมาตย์ 1 ใน 5 แก๊งปล้นไม้พะยูง ปล้นปืน พบว่าเป็นพนักงานราชการของกรมป่าไม้ สอบเข้ามาทำงานได้ประมาณ 5 ปี เดิมเคยทำงานในหน่วยป่าไม้ที่ สน.2 ที่ถูกปล้นไม้ของกลาง แต่พบมีพฤติการณ์ไม่มาทำงาน และขาดงานบ่อย จึงย้ายออกนอกพื้นที่ไปอยู่ที่จ.อุดรธานี ได้ปีกว่า ๆ
ยืนยันจากหลักฐานว่านายอาท ซึ่งเป็นพนักงานกรมป่าไม้ เป็น 1 ใน 5 ผู้เข้ามาก่อเหตุปล้นไม้พะยูงและไม้ของกลาง แต่ยังขยายผลว่ามีคนอื่นร่วมด้วยหรือไม่
อธิบดีกรมป่าไม้ ยอมรับว่าการที่มีคนในเป็นผู้ก่อเหตุปล้นไม้พะยูงและปืนหลวงเสียเอง ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย และขอให้ตำรวจขยายผล พร้อมขอเตือนคนของกรมป่าไม้ ถ้าเป็นหนอนบ่อนไส้เสียเองจะโดนโทษทางวินัย ถูกไล่ออกและทางอาญาอย่างเด็ดขาด
สำหรับไม้ของกลางที่เหลือในสำนักจัดการป่าไม้ที่ 1-11 สั่งการให้เช็กสต็อกไม้มีค่า เช่น ไม้พะยูง ไม้สัก ไม้ชิงชัน มม้ประดู่ ไม้มะค่าโมง ซึ่งมีปริมาตรไม้กว่า 10,000 ลูกบาศก์เมตร ขอให้เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังและนำเข้าในพื้นที่ปลอดภัย
สำหรับข้อกล่าวหาที่ตำรวจมีพยานหลักฐานคือ ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยร่วมกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยคนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน
โดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป , โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ , ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร
อ่านข่าว :