ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

2567 สุดปัง หมูเด้ง - ลิซ่า - หมีเนย ดังไกลระดับโลก

สังคม
23 ธ.ค. 67
09:08
6
Logo Thai PBS
2567 สุดปัง หมูเด้ง - ลิซ่า - หมีเนย ดังไกลระดับโลก

ในปี 2567 คำว่า "Soft Power" หรือ "ซอฟต์พาวเวอร์" ถูกพูดถึงและได้ยินกันบ่อยครั้งมากขึ้น หลายปรากฏการณ์ เป็นแรงผลักดันประเทศไทย ทำภาครัฐตื่นตัวในการเข้ามาสนับสนุนสานต่อเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมไปถึงการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

หากพูดถึงคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ ได้รับการนำเสนอเป็นเป็นครั้งแรก โดย โจเซฟ เนย์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยให้ความหมายว่า ซอฟต์พาวเวอร์ คือ การใช้อำนาจที่นุ่มนวล ในการ "โน้มน้าว" หรือ "ชักจูง" ให้ผู้อื่นรู้สึกพึงพอใจ เต็มใจ และยอมรับที่จะเปลี่ยนความคิด พฤติกรรม หรือคล้อยตามความต้องการของผู้ใช้อำนาจ แตกต่างจากการใช้อำนาจแบบดั้งเดิม หรือ อำนาจเชิงบังคับ  (Hard power) เช่น การใช้อำนาจทางการทหารและการใช้อำนาจทางเศรษฐกิจซึ่งมุ่งคุกคามผู้อื่น

หรืออาจกล่าวได้ว่าการทำงานของซอฟต์พาวเวอร์ที่ประสบความสำเร็จ จะเกิดขึ้นได้จากการดึงดูดผู้คนเข้าหา มิใช่การผลักดันสิ่งต่าง ๆ เข้าสู่ผู้คน 

ในปีนี้ยังเป็นปีที่ประเทศไทยกลับมาคึกคักในเกือบทุกด้านก็ว่าได้ หลังพายุการระบาดของโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไป ทำให้ได้ใช้ศักยภาพที่มี ทั้ง วัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว อาหาร ความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ 

5F ศักยภาพ ซอฟต์พาวเวอร์

รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์ด้านซอฟต์พาวเวอร์ผ่านวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ 5 ด้าน หรือ "5F" ซึ่งมีจุดขายที่มีอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่มีความโดดเด่น ได้แก่ Food : อาหารไทย, Film : ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย, Fashion : การออกแบบแฟชันเสื้อผ้าไทย, Fighting : ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย โดยเฉพาะมวยไทย, Festival : เทศกาลและประเพณีไทย

 1.  "อาหารไทย" มีศักยภาพในการสร้างโอกาสการเติบโตและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพราะอาหารไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในหมู่คนต่างชาติมาอย่างยาวนาน ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เปิดโครงการซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย พร้อมผลักดันเชฟไทย ให้เป็นทูตวัฒนธรรม เผยแพร่อาหารไทยสู่สายตาชาวต่างชาติ 

ส้มตำ

ส้มตำ

ส้มตำ

ขณะที่เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ประกาศขึ้นทะเบียน "ต้มยำกุ้ง" เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ตามหลัง โขน นวดไทย โนรา และประเพณีสงกรานต์ โดยต้มยำกุ้งถือเป็นรายการที่ 5 ของไทย ที่ได้รับการรับรอง

2. "ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทย" ปีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย และไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์หรือซีรีส์ ต่างช่วยสะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนไทยให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ อีกทั้ง ช่วยอีกแรงที่ช่วยดึงแฟนคลับต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

อย่างล่าสุด "หลานม่า" สร้างประวัติศาสตร์ ได้เข้ารอบ 15 ภาพยนตร์ชิงรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 97 สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม แต่ต้องลุ้นต่อในวันที่ 17 ม.ค.2568 จะเป็น 1 ใน 5 เรื่องสุดท้ายหรือไม่ ซึ่งหากได้รับรางวัลเรียกได้ว่า จะกลายเป็นก้าวสำคัญของวงการภาพยนตร์ไทยด้วย 

3. "แฟชัน" ซึ่งเป็นการผลักดันผ้าไทย และเครื่องประดับสไตล์ไทยสู่สายตานานาชาติ ยกตัวอย่างปีนี้ กางเกงช้าง ก็ยังไม่แผ่วความนิยม เรียกได้มาใครมาไทยต้องซื้อใส่ให้ได้ เพราะทั้งโปร่ง นิ่ม สบาย รับอากาศร้อนเมืองไทยได้เป็นอย่างดี  

4. ศิลปะการต่อสู้ "มวยไทย" เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และกลายเป็นกีฬาที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ ชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ หนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลผลักดันสู่สายตานานาชาติในหลากหลายมิติ

5. เทศกาล ประเทศไทยมีงานเทศกาลดังที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกซึ่งสามารถเรียกให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย เช่น เทศกาลสงกรานต์ เทศกาลลอยกระทง 

ทั้งหมดเป็นสิ่งที่รัฐบาลกำลังพลักดัน ใช้วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทรัพยากรธรรมชาติ สื่อบันเทิง สร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจจากนานาชาติ ต่อยอดสร้างมูลค่า สร้างรายได้ให้คนในประเทศ แต่นอกเหนือจากนั้น ประเทศไทยยังมีสิ่งที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาได้อีก มีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกัน 

"หมูเด้ง ทรงพลัง" ฮิปโปแคระสุดปัง ดังระดับโลก 

แต่ที่มาแรง แซงทุกทุกระแส ของปีนี้หากไม่พูดถึง "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระเพศเมีย ซุปตาร์ดังระดับโลก ดาวเด่นจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ที่สร้างปรากฎการณ์ไวรัลไปทั่วโลกก็คงไม่ได้ เพราะเธอรันไปทุกวงการจริง ๆ กลายเป็นกระแสให้พูดถึงและถูกหยิบนำไปเป็น "มีม" และ "คอนเทนต์" มากมาย หลังแจ้งเกิดบนโลกออนไลน์ด้วยวัยเพียง 2 เดือน กับความโดดเด้ง ดุ๊กดิ๊ก และโมเมนต์ "สวบขาพี่เลี้ยง" ทำหลายคนรู้จักเธอ ใครเห็นก็ยิ้มตาม 

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

"หมูเด้ง" ดึงดูดความสนใจสื่อจากต่างประเทศ สำนักข่าวดัง อาทิ CNN, BBC, Reuters, TIME, The Guardian เดินทางมาเก็บภาพทำสกู๊ปข่าวอวดความน่ารักสู่ชาวโลก เรียกได้ว่าโกอินเตอร์กันไปเลย หลายคนพากันมาหาเธอถึงที่อย่าง สาวจากรัฐนิวยอร์ก เดินทางกว่า 12,800 กม. จากสหรัฐฯ มาไทยเพียงเพื่อพบกับ "หมูเด้ง"  

ไม่เพียงเท่านั้น เซเลบตัวกลมยังดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จากปกติ 3,000 คนต่อวัน เป็น 12,000 คนต่อวัน เฉพาะเดือน ตุลาคม 2567 ผู้เข้าชมสวนสัตว์ รวม 300,000 คน และพีคสุดในวันที่ 13 ต.ค. ประมาณ 14,000 คนต่อวัน โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ  

นอกจากนี้ พลังหมูเด้งยังส่งผลให้ยอดการเข้าพักโรงแรม การใช้จ่ายในร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในพื้นที่ศรีราชา บางแสน พัทยา บางพระ คึกคักเช่นกัน มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 5-10%

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

ภาพจากเพจ : ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

ความฟีเวอร์ของหมูเด้ง ทำเนื้อหอมมีสินค้าหลากลายแบรนด์ ยื่นข้อเสนอขอคอลแลปส์ด้วย นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว บอกว่า มีกว่า 100 ราย ทั้งแบรนด์ไทยและต่างชาติ และคาดว่าทางสวนสัตว์จะมีรายได้จากส่วนแบ่งของการจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ต่าง ๆ ที่ตกลงทำสัญญากันไว้ไปจนถึงเดือน มี.ค.2568 ประมาณ 150 ล้านบาท     

ยังไม่หมดเรื่องเซเลบตัวกลม หากลองเสิร์ช #Moodeng ในแอป X ยังพบว่าความดังของฮิปโปแคระตัวนี้ไปถึงขอบสนามอเมริกันฟุตบอลในศึก NFL เมื่อทีม Washington Commanders โพสต์ภาพระหว่างการแข่งขันกับทีม นิวยอร์ก ไจแอนส์ และได้ตัดต่อรูปหมูเด้งลงไปด้วย พร้อมข้อความว่า หมูเด้ง น้องมาทำอะไรที่นี่ 

และปังจนฉุดไม่ไหว "หมูเด้ง" รันวงการบิตคอยน์ หมูเด้งกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล "เหรียญหมูเด้ง หรือ Moo Deng Coin" ซึ่งหลังจากผู้สร้าง สร้างเหรียญหมูเด้งขึ้นมา ไม่ถึง 3 สัปดาห์ ปรากฏว่ามูลค่าเหรียญหมูเด้ง พุ่งสูงไปถึงร้อยละ 1,400 แม้เหรียญหมูเด้งเป็น "Memecoin" หรือ เหรียญที่มีมูลค่าเป็นศูนย์ ไม่สามารถซื้อขายในกระดานคริปโตได้จริง แต่ตัวเลขก็ประเมินได้ถึง ความนิยมของตัวหมูเด้ง นั้นเอง   

หมูเด้ง รันทุกวงการไม่เกินจริง ต่อมาค่ายเพลงดัง ได้โพสต์ต้อนรับหมูเด้งสู่ครอบครัว กลายเป็นศิลปินท่านหนึ่งไปแล้ว โดยเพจสวนสัตว์เปิดเขาเขียว บอกว่า ค่ายเพลงดังได้สานต่อกระแสซอฟต์พาวเวอร์หมูเด้ง ทำโปรเจคเพลงพิเศษ 4 ภาษา ไทย จีน อังกฤษ ญี่ปุ่น   

แม้ยังไม่รู้ว่าจะไปสุดที่ตรงไหน เพราะ "หมูเด้ง" ยังปังส่งท้ายปี คว้ารางวัล "บุคคลมีสไตล์แห่งปี 2024" โดยเป็น 1 ใน 63 คนที่ได้รับรางวัลนี้จาก New York Times ที่ให้คำจำกัดความกับหมูเด้งว่าหมายถึง

เธอสวบ เธอเด้งเกรี้ยวกราด และเธอพิชิตใจคนทั้งโลก

การแจกรางวัลในปีนี้ มีความหลากหลายอย่างมาก เพราะนอกจากหมูเด้งแล้วยังมีมาสคอตช้าง "นิวยอร์ก ลิเบอร์ตี้ เอลลี่ ดิ อิเลฟเฟนท์" ส่วนผู้มีสไตล์ที่เป็นมนุษย์ มีทั้ง คิม เยจี นักกีฬายิงปืนชาวเกาหลีใต้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024, แดเนียล เคร็ก อดีตผู้สวมบท เจมส์ บอนด์ รวมทั้งนักร้องสาวดีว่าตัวแม่ บียอนเซ่ 

อ่านข่าว : เปิดใจแอดมิน "เบนซ์" ผู้จัดการ "หมูเด้ง" ดาราสาวแห่งเขาเขียว

ความโด่งดังของ "หมูเด้ง" จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาด เบนซ์ อรรถพล หนุนดี ผู้แจ้งเกิดให้กับฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" พี่เลี้ยง และแอดมินเพจ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" ที่คอยโพสต์รูป และอัปโหลดวิดีโอ ให้ทุกคนได้เห็นความน่ารักของหมูเด้งเสมอ ปลุกกระแสความนิยมไม่ขาดสาย ที่เรียกว่า แต่ละช็อต ได้ใจชาวโซเซียลสุด ๆ  

ภาพ : หมูเด้ง จาก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ

ภาพ : หมูเด้ง จาก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ

ภาพ : หมูเด้ง จาก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ

มาถึงตรงนี้เห็นได้ว่า เบื้องหลังความสำเร็จของฮิปโปแคระ "หมูเด้ง" อาจไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลจากการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจของสวนสัตว์ฯ ผ่านโซเชียลมีเดีย ขณะเดียวกัน หมูเด้งยังเป็นตัวอย่างของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโปรโมตการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกด้วย

ลิซ่า ปลุกเศรษฐกิจเยาวราช ตามรอย MV เที่ยวเช็คอิน

ศิลปินสายเลือดไทยที่โด่งดังระดับโลก "ลิซ่า" ลลิษา มโนบาล ปีนี้ชื่อของเธอยังคงได้รับความนิยมไม่แผ่ว จากผลงานและความสำเร็จในหลาย ๆ ด้านของเธอ อย่างผลงานเดียวในปีนี้ของเธอ ที่เรียกเสียงฮือฮา ปลุกกระแสให้กับย่านเศรษฐกิจเก่าแก่ของประเทศไทยให้มีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง 

ภาพจาก  LLOUD Official ฉากถนนเยาวราช ใน MV ของ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เพลง ROCKSTAR

ภาพจาก LLOUD Official ฉากถนนเยาวราช ใน MV ของ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล เพลง ROCKSTAR

ใน MV เพลง "ROCKSTAR" ที่เลือกโลเคชันย่านไชน่าทาวน์ชื่อดังของไทยอย่าง "เยาวราช" ให้เป็นหนึ่งในฉากสำคัญใน MV อิทธิพลความดังของเพลงนี้ ส่งผลให้เยาวราชถูกพูดถึงและถูกนำมาสร้างคอนเทนต์มากมายบนแพลตฟอร์มโซเซียล เพราะมีคนแห่มาเที่ยวตามรอยเพลงของลิซ่า ใน MV ส่วน นักแสดงประกอบ แดนเซอร์ และทีมงานก็ใช้คนไทยเป็นส่วนใหญ่ เรียกได้ว่าได้ใจคนไทยสุด

ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ "ลิซ่า" จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ Soft Power ของไทย ที่นำเสนอภาพเมืองไทย วัฒนธรรมไทย สินค้าไทย สู่สายตาชาวโลกทั้งทางตรงและทางอ้อม อยู่ตลอด ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวไม่ได้ เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ก่อนหน้านี้ "ลิซ่า" เคยทำให้ร้านลูกชิ้นยืนกินใน จ.บุรีรัมย์ ฮิตขึ้นมา 

นอกจากนี้ ลิซ่ายังเคยโพสต์ภาพใส่ชุดไทยเช็กอินเที่ยวเมืองโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมแคปชัน ว่า "Ayutthaya" ทำให้แฟนคลับทั้งชาวไทยและต่างชาตอยากตามรอยลิซ่า สถานที่ที่เธอไปได้รับความสนใจจากชาวไทยและต่างชาติเป็นพิเศษ ทำคนในพื้นที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวกันแบบไม่ได้พักมาแล้ว

 ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

ลิซ่าเป็นนักร้องและนักเต้นที่มีทักษะระดับสูงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และในปีนี้ 2567 "ลิซ่า" ยังได้คว้ารางวัล "Best K-Pop" จากเวที MTV VMAs 2024 ซึ่งเป็นการรับรางวัลครั้งที่ 2 ของเธอบนเวทีนี้ โดยเมื่อปี 2565 ลิซ่า ก็เคยได้รับรางวัลนี้เช่นกันจาก ผลงานเดี่ยว เพลง "LALISA"  

อ่านข่าว : "ลิซ่า คว้ารางวัล "Best K-Pop" จากเวที MTV VMAs 2024

นอกจากนี้ นิตยสาร Influencer UK ยังประกาศให้ "ลิซ่า" เป็น "ผู้ทรงอิทธิพลแห่งปี 2024" (Influencer of the Year) โดยรวบรวมผู้อิทธิพลทั่วโลก ที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดในรอบปี 

ไม่เพียงเท่านั้น "ลิซ่า" ยังเรียกเสียงฮือฮาอีกรอบ หลังมีชื่อในซีรีส์ "The White Lotus" ซีซั่น 3 ซึ่งเป็นการเปิดตัวในฐานะนักแสดง ที่สำคัญซีรีส์เรื่องนี้ยังใช้ประเทศไทยเป็นฉากในการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็น กรุงเทพฯ ภูเก็ต และสมุย ซึ่งไม่เพียงเสน่ห์ของสถานที่ในประเทศไทยที่เชื่อว่าจะทำให้ถูกรู้จักจากต่างชาติมากขึ้น ในซีรีส์เรื่องนี้ยังมีนักแสดงไทยหลายคน ที่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือการแสดงสู่สายตาคนทั่วโลก อีกด้วย  

 อ่านข่าว : ไทยฉากหลัก! สำรวจชีวิตคนรวย-เสียดสีสังคม "The White Lotus"

 ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

ลิซ่า ลลิษา มโนบาล

นอกจากจะเป็นศิลปินแล้ว ในปีนี้ 2567 ยังเป็นปีที่ "ลิซ่า" ได้ก้าวสู่บทบาทผู้บริหาร ภายใต้ชื่อ "LLOUD" หรือ ลาวด์ เพื่อดูแลผลงานของเธอ ทั้งในแวดวงดนตรีและบันเทิง รวมผลงานอื่น ๆ ที่กำลังตามมา 

ในปี 2567 ลิซ่าได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้ง ทั้งในด้านดนตรี การแสดง และการบริหารธุรกิจ ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินที่มีอิทธิพลและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลก 

เห็นได้ว่า ตัวตนของ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ศิลปินสายเลือดไทย ที่มักแสดงความภูมิใจในความเป็นไทยของเธอ ทั้งการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารกับแฟน ๆ ชาวไทยและต่างชาติ การสวมชุดไทย ถ่ายรูปและพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในไทย แสดงให้เห็นว่าเธอไม่เคยลืมความเป็นไทย หลายกิจกรรมที่เกิดจากลิซ่า ยังสามารถ ช่วยดึงเม็ดเงินเข้าประเทศไทย กระจายสู่ภาคส่วนการท่องเที่ยวได้อีก เมื่อแฟนคลับต่างชาติเข้ามาประเทศไทย หลายคนเลือกที่จะอยู่เที่ยวต่อ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้การท่องเที่ยวไทย คึกคักตามไปด้วย

"น้องหมีเนย" มาสคอต ขวัญใจมัมหมี พ่อหมี 

อีกหนึ่งซุปตาร์สาวที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั้นคือ "น้องหมีเนย" หรือ Butterbear มาสคอตหมีสีน้ำตาลตาโตของร้านขนมดัง ด้วยความตะมุตะมิ ดุ๊กดิ๊ก เต้นเก่ง มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบฉบับที่ได้ใจ แฟน ๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ หลายคนบอกความน่ารักของ "น้องหมีเนย" ทำใจฟูสุด ๆ 

ปี 2567 "น้องหมีเนย" ได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมอย่างกว้างขวางในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน ตอนนี้เรียกได้เลยว่า เป็นไอดอลสาว ขวัญใจโซเชียลมีเดีย 

ภาพจาก Butterbear.th

ภาพจาก Butterbear.th

ภาพจาก Butterbear.th

หากจะพูดถึงจุดเริ่มความนิยมของ "น้องหมีเนย" ในช่วงปีที่ผ่านมา คงหนีไม่พ้นการโชว์สกิลการเต้นที่ดูพริ้ว สมูท เรียกได้ว่าเพลงไหนเป็นไวรัล น้องหมีเนยเป็นต้องแจมทุกเพลง ทุกแนว ได้หมด และเมื่อต้องพบปะแฟนคลับเหล่ามัมหมี พ่อหมี "น้องหมีเนย" จะจัดเต็มกับเสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น ชุดเอี๊ยม ชุดไทย ชุดนักเรียน   

ความนิยมของน้องหมีเนยทำให้เกิดปรากฏการณ์ห้างแตกมาแล้ว ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมี "มัมหมี" ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ปักหลักรอพบกับน้องหมีเนยที่หน้าร้าน ความนิยมของน้องหมีเนยยังต่อยอดออกมาเป็นสินค้าประเภท Merchandise หรือ สินค้าลิขสิทธิ์ ให้แฟนคลับได้เลือกซื้อ อีกด้วย

และที่เรียกเสียงกรี๊ดกระหึ่มในปีนี้เมื่อ หมีเนยไปเซอร์ไพรส์ เป็น แขกรับเชิญงานโชว์เคส "แบมแบม กันต์พิมุกต์" กระแสความน่ารักของน้องหมีเนย ไม่แผ่ว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เลือก "น้องหมีเนย" เป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการ "สุขทันที ที่เที่ยวกับหมีเนย" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ถ่าย Vlog ทำกิจกรรม กิน เที่ยว ช้อป กระตุ้นแฟนด้อมตามรอยน้องหมีเนยเที่ยว 

ภาพจาก ข่าวสารท่องเที่ยว ททท.

ภาพจาก ข่าวสารท่องเที่ยว ททท.

ภาพจาก ข่าวสารท่องเที่ยว ททท.

นอกจากนี้ น้องหมีเนย ยังเคยได้รับคำชื่อชมจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้แสดงถึงความภูมิใจในความสำเร็จของ "น้องหมีเนย" ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ จนถึงขั้นเปรียบเทียบว่าน้องเนยคือ มาสคอตที่ส่งต่อ "วัฒนธรรมไทย" ให้เป็นที่รู้จักในเวทีนานาชาติ เช่นเดียวกับ Miffy จากเนเธอร์แลนด์ หรือ Labubu จากฮ่องกง

อ่านข่าว : จักรวาล "มาสคอต" เครื่องมือสื่อสารคุณค่าแบรนด์สินค้า-องค์กร

ขณะที่การจัดงานแฟนมีตติ้ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ อย่างมาก โดยบัตรราคาแพงที่สุดอยู่ที่ 5,900 บาท ต่ำสุดอยู่ที่ 1,900 บาท มาถึงตรงนี้เห็นได้ว่า "น้องหมีเนย" ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความน่ารักและความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยที่ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสุขให้กับผู้พบเห็น แต่ยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย

ภาพจาก 4NOLOGUE งาน Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits

ภาพจาก 4NOLOGUE งาน Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits

ภาพจาก 4NOLOGUE งาน Butterbear’s 1st Fam Meeting Adventure Awaits

ในปี 2567 ประเทศไทยมีการใช้วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ทรัพยากรธรรมชาติ สื่อบันเทิง สร้างความประทับใจและดึงดูดความสนใจจากนานาชาติ ต่อยอดสร้างมูลค่า สร้างรายได้ให้คนในประเทศ เสริมเศรษฐกิจให้มั่นคงได้ อย่างไรต้องติดตามปีหน้า ประเทศไทยจะเกิดปรากฎการณ์อะไรอีกบ้าง

อ่านข่าว : ที่สุดแห่งปี แวดวงกีฬาไทย ปี 67 สุดคึกคัก

ย้อน "เหตุการณ์สุดช็อก" โลกต้องจำ ปี 2567

“สินค้าจีน” กระทบไทย ถูกรุกคืบหรือเราไม่ปรับตัว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง