กรณีข่าวสะพัดเรื่องนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ โกทร ผู้ต้องหา 1 ใน 7 คนในคดียิงนายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้งเสียชีวิตที่บ้านใน จ.ปราจีนบุรี โดยพยานอ้างว่า สจ.โต้งเป็นพ่อ-ลูกที่เกิดจากภรรยาเก่า ไม่ใช่ลูกบุญธรรม
วันนี้ (20 ธ.ค.2567) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงแนวทางการสืบสวนสอบสวนหลังโอนสำนวนคดีมาที่กองปราบปรามว่า วันนี้ทางทางพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบสำนวนคดีและทำเรื่องรับสำนวนคดี
ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง สจ.โต้ง ที่บอกว่าเป็นลูกของภรรยาเก่าของโกทร การตรวจสอบไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้ทั้งจากสำเนาทะเบียนบ้านและคนใกล้ชิด
สอดคล้องกับนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของ น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือสจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะคนในปราจีนบุรี ทราบกันดีอยู่แล้ว โดยสจ.จอย บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นความจริง และยังได้สอบถามจากญาติได้รับการยืนยันว่า พ่อและแม่จริงของ สจ.โต้งเสียชีวิตไปแล้ว และใบสูจิบัตรของสจ.โต้ง พบว่าชื่อของบิดาไม่ใช่ชื่อ โกทร ด้วยเช่นกัน
อ่านข่าว ยัน "โกทร" คุมขังแถลงข่าวไม่ได้-ญาติเยี่ยมวันแรก
ทนายตั้งปมพิรุธคืนเกิดเหตุใน "บ้านโกทร"
ส่วนความคืบหน้าทางคดีว่า หลังเกิดเหตุได้พูดคุยกับตำรวจ 4 นาย พลเรือนอีก 5 คน ทั้งหมดเป็นผู้ติดตาม สจ.โต้ง เข้าไปในบ้านโกทร วันเกิดเหตุ ทุกคนได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีข้อพิรุธทางคดีจากคำให้การของผู้ต้องหา และยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น
นายนิติศักดิ์ จึงตั้งข้อสังเกตในวันเกิดเหตุว่า หลัง สจ.โต้งถูกยิง ตำรวจใช้เวลากว่า 40 นาที ก่อนจะเข้าไปในบ้านได้ ระยะเวลาดังกล่าว อาจมีการทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ หรืออาจมีการสร้างพยานเท็จหรือไม่
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า มือปืนที่ก่อเหตุกับพวกรวม 6 คน เข้าไปในบ้านได้อย่างไร เข้าไปเมื่อไหร่ เพราะการเข้าไปครั้งแรก ตำรวจ 4 นายที่ติดตาม สจ.โต้งเข้าไปในบ้าน ไม่พบเห็นทั้ง 6 คน ทำไมผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ถึงสวมรองเท้าเข้าไปในบ้าน จงใจไม่ให้มีหลักฐานหรือไม่
อ่านข่าว "สันธนะ" เปิดจดหมาย "สุนทร" จากเรือนจำ อ้างตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์
อีกทั้งการเข้าไปในบ้านครั้งที่ 2 ของ สจ.โต้ง เหตุใดถึงห้ามไม่ให้ตำรวจ 4 นายที่ติดตามเข้าไปในบ้าน และอ้างว่า "ให้พ่อลูกเขาคุยกันอย่าเข้าไป" ก่อนล็อกประตูบ้าน ห้ามคนภายนอกเข้าไปในบ้าน หากเป็นการก่อเหตุเฉพาะหน้าที่อ้างว่า สจ.โต้ง ตบศีรษะลูกน้องนายสุนทร เหตุใดนายสุนทร ถึงถูกแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเชื่อว่าตำรวจมีคำตอบทั้งหมดแล้ว และมั่นใจว่าผู้ต้องหาอาจจะมีมากกว่า 7 คน
นอกจากนี้ ทนายความยังตั้งข้อสังเกตคำให้การของนายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ หรือ "รองอุ๊" รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ว่า มีข้อพิรุธหรือไม่ โดยมีการตั้งข้อสงสัย ประเด็นการโทรศัพท์ไปหานายสุนทร ทั้งๆ ที่อยู่ในรั้วบ้านหลังเดียวกัน
อ่านข่าว กองปราบฯ รับโอนสำนวนคดี "สจ.โต้ง"
น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือสจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง
แจงแค่สมาชิกพรรคประชาชน พบอาวุธปืน
สำหรับปฏิบัติการปราบปรามผู้มีอิทธิพลของตำรวจภูธรภาค 2 มีการเข้าตรวจค้น 4 จุดพื้นที่ปราจีนบุรี และชลบุรี โดย 3 จุด มีความเชื่อมโยงกับ "รองอุ๊" แต่พบว่าไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย
ส่วนอีกจุดเป็นบ้านของนายสุเมธ พบอาวุธปืน 5 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จากการตรวจสอบพบว่ามีทะเบียน 4 กระบอก อีก 1 กระบอกพบว่าไม่มีทะเบียน
พรรคประชาชน ชี้แจงกรณีนี้ว่า บุคคลที่ถูกดำเนินคดี เป็นสมาชิกพรรคประชาชน แต่ไม่ใช่ผู้อำนวยการพรรคประจำจังหวัด ไม่มีสถานะเป็นผู้ช่วย สส.
สำหรับการตรวจสอบอาวุธปืนที่พบมีการนำหลักฐานทางทะเบียนชี้แจงต่อตำรวจเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นปืนมีทะเบียนทุกกระบอก แต่มี 3 กระบอก ที่เป็นการ ครอบครองผิดมือ
ผลตรวจเขม่าดินปืนออก 23 ธ.ค.นี้
พ.ต.อ.อเนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า หลังรับโอนคดีมาที่กองปราบปราม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทางธุรการรับสำนวน หลังเสร็จสิ้นกระบวน การทางเอกสาร ชุดสืบสวนสอบสวนจะนำพยานหลักฐานทั้งหมดมาขยายผลต่อ
ส่วนความคืบหน้าการเข้าไปตรวจสอบวิถีกระสุนปืนในบ้าน สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ให้ข้อมูลว่า มีการเข้าไปจำลองภาพตามคำให้การของผู้ต้องหา พยานทั้งหมดแล้ว เพื่อให้มีความชัดเจนว่า คำให้การตรงกันหรือไม่ มีใครพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงบ้าง
ซึ่งประเด็นสำคัญที่จะตอบได้ชัดเจนว่า คดีนี้ มีผู้ก่อเหตุลงมือยิงมากกว่า 2 คนหรือไม่นั้น คือ "คราบเขม่าดินปืน" จากห้องปฏิบัติการ จะเป็นคำตอบในทางคดี โดยคาดว่าผลการตรวจสอบจะออกในวันจันทร์ ที่ 23 ธ.ค.นี้ ส่วนการตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในบ้าน พบว่า ชำรุดใช้งานไม่ได้มานานแล้ว
อ่านข่าว
คดีดังสะเทือนไทย ปี 2567 "รถบัสไฟไหม้-ดิไอคอน"