จากกรณีที่ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ.…(ฉบับใหม่) ซึ่งได้บรรจุร่าง พ.ร.บ.เข้าระเบียบวาระการประชุมสภาวันนี้ โดยมีการตั้งข้อสังเกตจากภาคประชาสังคม ว่า สภาฯกำลังออกกฎหมายที่จะอนุญาตให้ใช้อวนตาเล็กจับปลาได้ในทะเลไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทรัพยากรสัตว์น้ำขนาดเล็กและชายฝั่ง
ล่าสุด วันนี้ (25 ธ.ค.2567) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ถึงกรณี นายวิชาญ สมุทวารี วัยอายุ 35 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน บริเวณบ้านบางสัก ต.บางม่วง ม.บ้านทับตะวัน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยระบุว่า หากมีการอนุญาตให้ใช้อวนประมขนาดเล็กในเชิงพาณิชย์ คิดว่าไม่เหมาะสม เพราะจะเป็นการทำร้ายมากกว่า แต่ถ้าอนุญาตให้ประมงพื้นบ้านสามารทำได้ตนเองก็เห็นด้วย เพราะประมงพื้นบ้านจะทำประมงเฉพาะหน้าแล้งไม่ใช่หน้าฝน
นายวิชาญ สมุทวารี วัยอายุ 35 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน บริเวณบ้านบางสัก ต.บางม่วง ม.บ้านทับตะวัน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
ดังนั้น หากมีการทำประมงโดยใช้อวนตาถี่เท่ามุ้งและทำประมงบริเวณชายฝั่ง หากเป็นเรือพาณิชย์ ซึ่งมักจะเป็นเรือลำใหญ่ ถ้าเข้ามาก็ทำลายเยอะ เพราะในฝั่งมีทั้งปะการัง ทั้งหิน ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์น้ำ แต่หากทำด้านนอกก็จะมีผลกระทบน้อยกว่าแต่ก็ไม่เหมาะสมเพราะทำลายสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังเติบโต และทำให้ทรัพยาการทางทะเลในพื้นที่ลดลง และทำลายที่อยู่ของสัตว์น้ำ ซึ่งไม่สมควร ไม่ดีต่อชาวประมงและสิ่งแวดล้อม
นายวิชาญ ยังกล่าวว่า อวนตาถี่มาก ๆ เหมือนจะเท่ากับมุ้ง ส่วนใหญ่จะใช้จับปลาขนาดเล็ก เช่น ลูกกุ้งเคย ส่วนใหญ่จะลากเอากุ้ง โดยใช้รุนซึ่งอยู่กับพื้นเดิน จะทำลายหน้าดิน เพราะรุนไปกับดิน ติดทุกอย่าง ถ้าได้ลงไปในน้ำ น่าจะไม่เหลือ อาหารปลา ตะกอน หน้าดินก็จะหายหมด หอยปลิง ก็จะหาที่อยู่ใหม่ ที่อุดมสมบูรณ์กว่า
ขณะที่อุปกรณ์ เครื่องมือ ที่ใช่ตาถี่มีไม่กี่ตัว คือ อวนรุนเคย ระวะ ไซบางตัว แต่จะไปทำประมงตาถี่ แต่หากไปทำประมงใหญ่ด้านนอกไม่รู้ว่าจะจับปลาอะไร แต่ส่วนใหญ่ใช้อวนตาห่าง แต่ถ้า 2 ซม.ถี่เกิน ปลาตัวเล็กไปหมด เพราะอวนตาถี่เรือประมงพาณิชย์จะไม่ใช้ แต่ถ้าประกาศก็อาจจะไม่แน่ อาจจับปลาชิงชังก็ได้ ถ้าเรือลำใหญ่ไปทำ แต่ถ้ายกเลิกแล้วให้เรือขนาดเล็ก ประมงพื้นบ้านทำประมง ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ก็น่าจะทำได้
ถ้าเรือพาณิชย์ใช้อวนตาถี่ อาจจะทำให้สัตว์บางชนิดก็จะหายไป ไม่มีปลาเหลือให้กิน ปลาราคาแพงขึ้น ก็มีความกังวล ต่อไปเด็ก ๆ อาจจะลำบาก เราต้องอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เราทำลายเยอะแล้ว ต้องช่วยกันรักษาธรรมชาติไว้ด้วย เหมือนที่กรมประมงปิดอ่าว 4 -6 เดือน ก็เป็นผลดี ในการรักษาระบบนิเวศ ให้ปลามีหลากหลายมากขึ้น ตัวไหนใกล้สูญพันธ์ก็มาเพาะเลี้ยงก็ช่วยได้เยอะ
นายวิชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากจะทำจริงควรจำกัดเรือที่ทำ เช่น จำกัด 100 ลำทั้งประเทศ และกฎหมายควรรัดกุมมากวกว่านี้ โดยเฉพาะผู้ที่ใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย จะช่วยให้เรือประมงพาณิชย์กับประมงพื้นบ้านจะได้ไม่ทะเลาะกัน ถ้อยทีถ้อยกัน เช่น พื้นที่ 300 ไมล์ทะเลเรือประมงพาณิชย์จะต้องไม่เข้ามา แต่ก็ยังพบว่า มีการลักลอบเข้ามา ก็อยากให้มีคนมาจัดการเรื่องนี้ให้เห็นชัด
แต่ก่อนมีปลาโรนิน ปลาโรนัน ปลากระเบน ปลาฉลามเบน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว
อ่านข่าว : จับตา! ชาวประมงร้องหยุด ม.69 สภาจ่อเคาะกม.อวนตาเล็ก
เฮลั่น ประมงพื้นบ้าน 1.2 หมื่นลำ "กรมประมง" ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย
สภาฯ ถกแก้ 24 ประเด็น พ.ร.บ.ประมงใหม่ "ปลอดประสพ" ยันยึดหลักสากล