ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยะเยือกในรอบ 5 ปี คนกรุงฯ สัมผัสลมหนาว 15.2 องศาฯ

ภัยพิบัติ
14 ม.ค. 68
18:19
399
Logo Thai PBS
ยะเยือกในรอบ 5 ปี คนกรุงฯ สัมผัสลมหนาว 15.2 องศาฯ
กรุงเทพฯ อากาศหนาวต่ำสุด 15.2 องศาเซลเซียส ทุบสถิติในรอบ 5 ปี ผลพวงจาก "ลานีญา" ยังลุ้นภาคเหนือ-อีสานตอนบนหนาวลากยาวถึงกลางเดือน ก.พ.

หน้าหนาวปีนี้กรุงเทพฯ หนาวจริง หนาวนาน ส่วนต่างจังหวัดอุณหภูมิพื้นราบบางวันเป็นเลขตัวเดียว จริงหรือไม่ที่คนไทยจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวไปถึงกลางเดือน ก.พ.

วันนี้ (14 ม.ค.2568) นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันกับ "ไทยพีบีเอสออนไลน์" ว่าจริง แต่เฉพาะที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนบนเท่านั้น ส่วนภาคอีสานตอนล่างและภาคอื่น ๆ อุณหภูมิจะเริ่มขยับสูงขึ้นหลังจากวันที่ 20 ม.ค.นี้ไปแล้ว

ตั้งแต่ปลายปี 2567 จนถึงช่วงปีใหม่ 2568 สภาพอากาศในประเทศไทยยังหนาวเย็นต่อเนื่อง บางวันมีอุณหภูมิสูงขึ้น ปัจจัยหลักที่ทำให้อากาศหนาวคือมวลอากาศเย็น บางช่วงมวลอากาศเย็นมีกำลังปานกลาง อุณหภูมิอาจลดลงไม่มาก แต่ในช่วงวันที่ 10-13 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน มองโกเลีย แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้อุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะในภาคอีสาน รวมถึงพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯ ด้วย

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา สถานีตรวจวัดที่บางนา วัดอุณหภูมิต่ำสุดของกรุงเทพฯ ได้ 15.2 องศาเซลเซียส ส่วนที่ต่างจังหวัดอุณหภูมิพื้นราบต่ำสุดอยู่ที่ จ.สกลนคร 6.6 องศาฯ และวันนี้ (14 ม.ค.) ต่ำสุดอยู่ที่ จ.เลย วัดอุณหภูมิพื้นราบได้ 6.5 องศาฯ

หลายปีแล้วที่เราไม่เจออากาศหนาวในกรุงเทพฯ ปีนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อากาศหนาว แต่ยังไม่หนาวที่สุด

แม้ปีนี้ คนกรุงเทพฯ จะได้สัมผัสอากาศหนาว จนหลายคนต้องหาเสื้อกันหนาวมาสวมใส่ แต่ ผอ.กองพยากรณ์อากาศ ยืนยันว่า ฤดูหนาวปี 2568 ยังไม่ถือว่าหนาวที่สุดและยังไม่ทำลายสถิติอุณหภูมิต่ำสุดในช่วงฤดูหนาว เพราะหากย้อนไปเมื่อ 10-15 ปีก่อนหน้านี้ อุณหภูมิของกรุงเทพฯ ในปี 2557 มีอากาศหนาวเย็นกว่า ต่ำสุด 14.8 องศาฯ ในวันที่ 24 ม.ค. 

นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

นายสมควร ต้นจาน ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา

เพียงแต่ปีนี้เรามีความรู้สึกว่าหนาวเย็นกว่าทุก ๆ ปีในห้วงระยะเวลา 5-7 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น และหากเทียบสถิติย้อนหลัง 5 ปีที่กรมอุตุนิยมวิทยา บันทึกอุณหภูมิต่ำสุดของกรุงเทพฯ จะพบว่า เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิต่ำลงที่ 15.2 องศาฯ ถือว่าหนาวเย็นในรอบ 5 ปี 

  • ปี 2568 ต่ำสุดวันที่ 13 ม.ค. อุณหภูมิ 15.2 องศาฯ
  • ปี 2567 ต่ำสุดวันที่ 23 ธ.ค. อุณหภูมิ 19.2 องศาฯ
  • ปี 2566 ต่ำสุดวันที่ 23 ธ.ค. อุณหภูมิ 18.2 องศาฯ
  • ปี 2565 ต่ำสุดวันที่ 19 ธ.ค. อุณหภูมิ 18.5 องศาฯ
  • ปี 2564 ต่ำสุดวันที่ 13 ม.ค. อุณหภูมิ 16.1 องศาฯ

อากาศหนาวผลพวง "ลานีญา"

นายสมควร ระบุว่า "ลานีญา" เป็นปรากฏการณ์ที่มีผลต่อกระแสลมที่พัดเข้ามาในบริเวณประเทศ ซึ่งจะมีผลต่อการลดลงของอุณหภูมิ เช่น ในปี 2560 เป็นปีที่ลานีญามีกำลังแรง ทำให้อุณหภูมิในปีนั้นลดลงมากในช่วงเดือน ธ.ค.- ม.ค. ส่วนในปี 2568 ก็เป็นผลพวงจากลานีญา แม้ปีนี้ลานีญาจะมีกำลังอ่อนถึงเป็นกลางเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีผลต่อกระแสลมค้าที่พัดเข้ามาสู่ประเทศไทย

ปีไหนที่เป็นปีลานีญา กระแสลมค้าจะนำเอาความชื้นจากทางมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้เข้ามา และกระแสลมเหล่านี้จะดึงเอาความหนาวเย็นจากขั้วโลกหรือซีกโลกเหนือลงมาได้ดี โดยเฉพาะจากทางประเทศจีน ทำให้หนาวเย็นหลายวันมากขึ้น ดีกว่าปีที่เป็นเอลนีโญ ซึ่งปีที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นปีเอลนีโญ อากาศแห้งและมีความแห้งแล้งเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นปีที่ผ่านมาอากาศเย็นลงค่อนข้างน้อย ระลอกหนาวที่ลงมาก็น้อยไปด้วย ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยไม่มาก

แต่ปีนี้ต่างไป เพราะตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.2567 มาจนถึงเดือน ม.ค.2568 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากลานีญาอ่อน ๆ อุณหภูมิน้ำทะเลเฉลี่ยของมหาสมุทรแปซิฟิกยังอยู่ในเกณฑ์ 0.2-0.4 เท่านั้น

นอกจากนี้ยังย้ำว่า อากาศหนาวเย็นในประเทศไทยมาจากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นเป็นส่วนใหญ่ ไม่เชื่อมโยงกับ Polar Vortex เพราะประเทศไทยมีภูมิประเทศเป็นตัวกั้น เช่น เทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาแถบเมียนมา ทำให้กระแสลมกรดบริเวณขั้วโลกลงมาไม่ถึงและจะเลยไปทางเกาหลี ญี่ปุ่นและซีกตะวันออกของจีน ซึ่งมีผลต่ออุณหภูมิที่ลดลงของประเทศเหล่านี้

อุตุฯ คาดหน้าร้อนปีนี้ "ไม่ร้อนแรง"

ผอ.กองพยากรณ์อากาศ กล่าวถึงสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ว่า ถือเป็นข่าวดี เพราะหน้าร้อนปีนี้ไม่เป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุด เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่คาบเกี่ยวระหว่างการเป็นลานีญาอ่อน ๆ จะทำให้อุณหภูมิไม่สูงมากนัก แต่อาจมีบางวันที่อากาศร้อนถึงร้อนจัดได้บ้างในช่วงเดือน มี.ค-เม.ย.

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน ม.ค.จะเริ่มมีฝน จากอิทธิพลของคลื่นกระแสลมตะวันตกพัดผ่านมาจากประเทศเมียนมา และกระแสลมที่ยังคงมีความชื้น เป็นกระแสลมใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงทิศทางในช่วงที่เปลี่ยนสู่ฤดูร้อน ก็จะนำความชื้นเข้ามา รวมทั้งสภาวะที่เป็นกลางของลานีญา ทำให้โอกาสที่จะเกิดฝนในปีนี้มากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่เดือน ก.พ., มี.ค.และ เม.ย. จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ความชื้นก็จะเพิ่มขึ้น

ปีนี้คาดว่าอากาศไม่ร้อนต่อเนื่องเหมือนปีที่แล้ว ปีนี้คงจะมีฝน มีความชื้นเข้ามาช่วย อุณหภูมิจะไม่ร้อนมาก

อ่านข่าว

Polar Vortex ไม่ถึงไทย แต่เตรียมตัวหนาวจริง 10-13 ม.ค.

พายุหิมะถล่มสหรัฐฯ หนาวสุดขั้วจากปรากฏการณ์ Polar Vortex

มาแน่! วัคซีนไข้หวัดนกสู้ H5N1 ไทยผลิตเอง 4 แสนโดส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง