ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตรงจากดาวอส! นายกฯ สั่งแก้ปัญหาฝุ่นด่วน กทม.พื้นที่สีแดง 30 เขต

การเมือง
23 ม.ค. 68
16:57
333
Logo Thai PBS
ตรงจากดาวอส! นายกฯ สั่งแก้ปัญหาฝุ่นด่วน กทม.พื้นที่สีแดง 30 เขต
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกฯ สั่งการจาก "ดาวอส" ให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลัง แก้ไขฝุ่นควันเร่งด่วนทันที พร้อมให้ กทม. และ กระทรวงที่เกี่ยวข้องอาทิ ศึกษาธิการตัดสินใจออกประกาศในส่วนที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในแต่ละพื้นที่

วันนี้ (23 ม.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อ 07:30 น. ตามเวลากรุงดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตรงกับเวลา 13:30 น. ตามเวลาในประเทศไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้ส่วนราชการทุกส่วนที่ได้ร่วมประชุม ทั้งในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และคณะทำงานส่วนราชการในการแก้ไขฝุ่นควัน เมื่อวันพุธที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนการเดินทางมาประชุมWorld Economic Forum ที่ดาวอส

โดยนายกรัฐมนตรี ให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งแก้ไขปัญหาทันที ตามที่มีการกำหนดแนวทางในการประชุม และขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งการแก้ไขแบบเร่งด่วนทันที และแผนการระยะสั้น และระยะยาว โดยขอหน่วยงานต่าง ๆ รายงานการดำเนินการทุกวัน โดยกรุงเทพมหานคร ขอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตัดสินใจทันที

ทั้งเรื่องการประกาศหยุดเรียนของนักเรียนในสังกัด กทม. โดยส่วนราชการอื่น ๆ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการให้ตัดสินใจพิจารณาดำเนินการ และกำชับให้ กทม. ใช้ 9 มาตรการ เช่น เข้มงวดตรวจวัดตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภทร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work From Home) เข้มงวดตรวจตราควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท อย่างเข้มข้น

ขณะที่กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ

- กระทรวงอุตสาหกรรม ให้เข้มข้นในการดำเนินมาตรการงดการรับซื้ออ้อยไฟไหม้ และได้กวดขันโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและปราบปรามเขาตรวจสอบเป็นระยะ

- กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้บังคับใช้กฎหมายส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มงวดกับผู้เผาป่า เผาตอซังข้าว ข้าวโพด อ้อยและพืช ในทุกหมู่บ้านทุกอำเภอทั้งประเทศ และตั้งศูนย์ปฏิบัติการในพื้นที่ 14 กลุ่มป่า ตั้งจุดเฝ้าระวังไฟในพื้นที่ป่า และแผนการจัดจ้างคนในชุมชนประจำจุดเฝ้าระวังอีก 1,585 จุด และดำเนินคดีกับผู้เผาป่า ด้วยกฎหมายป่าไม้ที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ และบังคับใช้กฎหมายกับผู้เผา อาทิ กฎหมายสาธารณสุข กฎหมายการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และประมวลกฎหมายอาญา โดยให้รายงานสถิติการจับกุม

- กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการห้ามนำเข้าอ้อยไฟไหม้ รวมทั้งพืชเกษตรอื่น ๆ ที่ผ่านการเผา อย่างเด็ดขาดและให้ตรวจสอบตามด่านพรมแดนที่มีการนำเข้าอย่างเข้มงวด

- นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคง และกรมศุลกากรตรวจสอบการลักลอบการนำเข้าพืชที่ผ่านการเผาทุกชนิดตามแนวชายแดนต่าง ๆ อย่างเข้มงวดตลอดเวลา

สำหรับส่วนราชการอื่น ๆ รัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กวดขันจับกุม ห้ามใช้ยานพาหนะที่ปล่อยควันดำเกินมาตรฐานอย่างจริงจัง โดยเฉพาะรถพิกอัป รถโดยสาร รถบรรทุกขนาดใหญ่ ที่ปล่อยควันดำรวมทั้งรถโดยสารของ ขสมก. และรถร่วมบริการเส้นทางต่าง ๆ ที่อยู่ในความดูแลของรัฐ โดยขอให้ตรวจสอบและกวดขันการจับคุมให้เข้มข้น โดยในกรุงเทพมหานคร กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ตั้งด่านตรวจควันดำใน 4 มุมเมืองของกรุงเทพมหานคร

- กระทรวงมหาดไทย ได้กำชับ กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้ควบคุมการก่อสร้างในเขตพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันการปล่อย PM 2.5 จากไซต์งานก่อสร้าง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดให้กับผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือมาตรการดังกล่าวอย่างจริงจัง โดยให้จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามกฎหมายกับผู้เผาและให้รายงานสถิติการดำเนินการ

- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอให้ขึ้นบินปฏิบัติการต่อเนื่องการเจาะชั้นบรรยากาศเร่งระบายและลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมการข้าว และ กรมฝนหลวง และการบินเกษตร ลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรในการทำเกษตรกรรมแบบปลอดการเผา

- กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พัฒนา Platform ฐานข้อมูลกลางเกี่ยวกับ hotspot และ ventilation โดยใช้ข้อมูลจากดาวเทียม หรือ low cost sensors เพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ นำไปใช้ในการแก้ปัญหาการฟุ้งกระจายของ PM2.5 อย่างบูรณาการ

- ด้านกระทรวงการต่างประเทศ หารือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อร่วมมือและให้ความช่วยเหลือในการลดปัญหาฝุ่นควันข้ามพรมแดน

- ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ให้ สธ. ทั่วประเทศ เข้ม 5 มาตรการ

  1. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขเตรียมพร้อม
  2. เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความรอบรู้ภัยสุขภาพ
  3. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ (สสจ.) จัดทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง
  4. ขยายบริการด้านการแพทย์สาธารณสุขให้ครอบคลุม เช่น เพิ่มห้องปลอดฝุ่น มุ้งสู้ฝุ่น
  5. สนับสนุนอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่างๆ เช่น หน้ากากอนามัย อย่างเร่งด่วนต่อไป

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (วันศุกร์ที่ 24 ม.ค.2568) นายกรัฐฯ จะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนอีกครั้ง

ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครขอสรุปผลการตรวจวัด PM2.5 ประจำวันที่ 23 ม.ค.2568 เวลา 13.00-15.00 น. (3 ชั่วโมงล่าสุด)

  • ตรวจวัดได้ 56.8-96.6 มคก./ลบ.ม.
  • ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 74.0 มคก./ลบ.ม.
  • ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีแดง

อยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 30 พื้นที่ คือ

  1. เขตยานนาวา
  2. เขตลาดกระบัง
  3. เขตบางกอกน้อย
  4. เขตภาษีเจริญ
  5. เขตบางขุนเทียน
  6. เขตสาทร
  7. เขตคลองเตย
  8. เขตหลักสี่
  9. เขตบึงกุ่ม 
  10. เขตลาดพร้าว
  11. เขตคลองสามวา
  12. เขตสายไหม
  13. เขตจอมทอง
  14. เขตบางกอกใหญ่
  15. เขตตลิ่งชัน
  16. เขตทวีวัฒนา
  17. เขตหนองแขม
  18. เขตบางบอน
  19. เขตทุ่งครุ
  20. เขตบางนา
  21. เขตคันนายาว
  22. เขตมีนบุรี
  23. เขตหนองจอก
  24. เขตประเวศ
  25. เขตราษฎร์บูรณะ
  26. สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ
  27. สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม
  28. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา
  29. สวนหนองจอก เขตหนองจอก
  30. สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา เขตบางคอแหลม

อยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 40 พื้นที่ คือ

  1. เขตราชเทวี
  2. เขตสัมพันธวงศ์
  3. เขตพญาไท
  4. เขตวังทองหลาง
  5. เขตปทุมวัน
  6. เขตบางรัก
  7. เขตบางคอแหลม
  8. เขตจตุจักร
  9. เขตบางกะปิ
  10. เขตธนบุรี
  11. เขตคลองสาน
  12. เขตบางเขน
  13. เขตบางพลัด
  14. เขตพระนคร
  15. เขตบางซื่อ
  16. เขตสวนหลวง
  17. เขตห้วยขวาง
  18. เขตสะพานสูง
  19. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย
  20. เขตบางแค
  21. เขตดอนเมือง
  22. เขตดินแดง
  23. เขตพระโขนง
  24. เขตดุสิต
  25. เขตวัฒนา
  26. สวนลุมพินี เขตปทุมวัน
  27. สวนวชิรเบญจทัศ เขตจตุจักร
  28. สวนจตุจักร เขตจตุจักร
  29. สวนหลวง ร.9 เขตประเวศ
  30. สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง
  31. อุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย
  32. สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง
  33. สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย
  34. สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ เขตจตุจักร
  35. สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เขตบางกอกน้อย
  36. สวนบางแคภิรมย์ เขตบางแค
  37. สวนพระนคร เขตลาดกระบัง
  38. สวนกีฬารามอินทรา เขตบางเขน
  39. สวนสันติภาพ เขตราชเทวี
  40. สวนหลวงพระราม 8 เขตบางพลัด

ข้อแนะนำสุขภาพ

สีแดง : คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนทุกคน งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
สีส้ม : คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
▪️ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
▪️ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

อ่านข่าวอื่น : 

ฝุ่นยังคลุม กทม.ฝุ่นเกินมาตรฐานทุกเขต พื้นที่สีแดง 14 เขต

ครั้งแรก! ชงใช้กม.ควบคุมโรคป้องกันฝุ่น PM2.5

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง