วันนี้ (28 ม.ค.2568) ทหารของกองทัพสหรัฐฯ เร่งมือติดตั้งเครื่องกีดขวาง รวมถึงลวดหนามหีบเพลงอย่างแน่นหนา บริเวณพรมแดนทางตอนใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งติดกับเม็กซิโก เพื่อสกัดกั้นผู้อพยพที่มักใช้พื้นที่ดังกล่าวลักลอบเข้าสหรัฐฯ อย่างผิดกฎหมาย ถือเป็นหนึ่งในมาตรการแข็งกร้าวต่อผู้อพยพที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
ขณะที่บริเวณเมืองพรมแดนของเม็กซิโกที่ติดกับสหรัฐฯ ทางการเม็กซิโกดำเนินการสร้างเต็นท์ที่พักชั่วคราวต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรองรับชาวเม็กซิกันจำนวนมากที่อาจถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ หลังจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ เริ่มเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงผู้ที่ไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดมาก่อนด้วย
นโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพที่เปลี่ยนแปลงไปของสหรัฐฯ ยังส่งผลให้เกิดกระแสความกังวลในหมู่ผู้อพยพในเม็กซิโกด้วย โดยที่หน้าสำนักงานผู้อพยพของเม็กซิโก ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ มีประชาชนกว่า 1,500 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเฮติและเวเนซุเอลา ต่อแถวเป็นแนวยาวเพื่อรอยื่นคำร้องขอลี้ภัย หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยกเลิกระบบการพิจารณาตรวจคนเข้าเมืองไปแล้วทั้งหมด
สหรัฐฯ เร่งกวาดล้างผู้อพยพอย่างต่อเนื่อง
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ หรือไอซีอี ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการกวาดล้างผู้อพยพที่ลักลอบพำนักในสหรัฐฯ ทั่วประเทศ
โดยทางไอซีอีเปิดเผยว่า ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายได้กว่า 956 คน ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ จากเดิมที่ตัวเลขการจับกุมผู้อพยพเฉลี่ยจนถึงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อยู่ที่วันละ 331 คน
ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในงานเลี้ยงพบปะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน ขอให้ทุกคนสนับสนุนแผนกวาดล้างผู้อพยพและควบคุมชายแดนที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งตนให้ความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด พร้อมระบุว่า จะไม่มีการกล่าวขอโทษใดๆ ทั้งสิ้นและทุกอย่างกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็วมาก
อ่านข่าว :
"ทรัมป์" จ่อยกเลิกโครงการ DEI - แบนทหารข้ามเพศในกองทัพ
"ทรัมป์" ขู่ขึ้นภาษี-คว่ำบาตร "โคลอมเบีย" หลังปฏิเสธรับผู้อพยพ