วันนี้ (31 ม.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการตัดสินใจตัดไฟฟ้าให้กับประเทศเมียนมา โดยให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาโดยระบุว่า ผมไม่รับอะไรทั้งนั้น กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ปฏิบัติ เราถูกสั่งให้ขายไฟให้กับประเทศเพื่อนบ้านด้วยเหตุผลทางสิทธิมนุษยธรรม
หากมีเหตุที่จะให้ต้องหยุดจ่ายไฟ ผู้ที่สั่งให้ขายต้องแจ้งให้ ก.มหาดไทย หยุด ก.มหาดไทยไม่สามารถหยุดเองได้ มีหน้าเพียงส่งไฟฟ้าข้ามไป แต่ไม่รู้ว่าเขาจะนำไปจ่ายให้กับผู้ใช้ประเภทใดบ้าง มันไม่ใช่หน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
แต่หากทางการเมียนมาแจ้งขอให้ตัดไฟจะเป็นเรื่องง่าย เพราะสามารถแจ้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อดำเนินการได้เลย หรือหากเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็แจ้งให้นายกฯมีข้อสั่งการโดยเร่งด่วนในส่วนของทางการไทยผู้ที่จะมีอำนาจสั่งการต้องเป็นไปตามเอกสารข้อมูล
นายอนุทิน ยังระบุว่า เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.2568) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้ตอบจดหมายกลับมายัง กฟภ.โดยแจ้งว่า ได้ไปสำรวจแล้วพบว่า บริษัทที่รับซื้อไฟฟ้าจาก กฟภ.เพื่อจำหน่ายต่อยังชายแดนประเทศเมียนมา ไม่มีการกระทำใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย คณะกรรมการบริหารของบริษัทไม่มีประวัติ ไม่พบการกระทำผิดทางกฎหมายใด
จึงถามว่า กฟภ.จะเอาอำนาจตรงไหนไปตัดไฟ แต่หาก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีหนังสือตอบกลับมาว่า พบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงเห็นสมควรให้หยุดตัดไฟ กฟภ.จะทำเรื่องมาถึงตนเพื่อส่งเรื่องไปถึงนายกฯ เพื่อให้พิจารณาสั่งการ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์และยืนยัน แต่การดำเนินการสามารถทำได้ทันทีหากมีการพิสูจน์แล้ว เพราะการขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้านมีมติ ครม.รองรับ หากจะหยุดจ่ายไฟก็ต้องนำเข้า ครม.เมื่อที่ประชุมรับทราบก็สามารถตัดไฟได้ทันที
นายอนุทิน กล่าวว่า การจะทำอย่างที่กล่าวมาได้ต้องไปถึงจัดนั้นก่อน ผู้ที่บอกว่า มีการนำไฟฟ้าไปใช้ในการสแกมเมอร์หลอกหลวง แก๊งคอลเซนเตอร์ หรือเกี่ยวกับยาเสพติด ขณะนี้มีเพียงแต่ข้อมูลทางวาจา ยังไม่มีการพิสูจน์ ไม่รู้ว่าทำตรงไหน หากไปตัดไฟโรงเรียน โรงพยาบาล หมู่บ้าน วัด จะไม่มีไฟใช้ทั้งหมด หากทำแล้วเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ อาจถูกฟ้องกลับมาได้
ทั้งนี้ นายอนุทิน ยอมรับว่า ประเทศไทยเคยหยุดจ่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ประมาณ 2-3 จุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ กฟภ.สามารถพิจารณาได้เอง ซึ่งการที่มาพูดว่า รมว.มหาดไทย สามารถสั่งตัดไฟได้เลย ต้องเข้าใจว่า กฟภ.เป็นรัฐวิสาหกิจมีบอร์ด และคณะกรรมการบริหาร ตนสั่งการได้แต่เชิงนโยบาย
ดังนั้นการตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ประเทศเมียนมาจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น ทางการเมียนมายืนยันว่า ทั้งหมู่บ้านความจริงแล้วเป็นการผลิตอาวุธเถื่อน ยาเสพติด แก๊งคอลเซนเตอร์ สามารถแจ้งมายังรัฐไทยได้
ทุกอย่างมีขั้นตอน กฟภ.มีหน้าที่จ่ายไฟให้กับรัฐไทยเท่านั้น ไม่ใช่การข้ามรัฐ แต่ครั้งนี้เป็นภารกิจด้านมนุษยธรรม จากคำสั่งของหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก.มหาดไทยไม่มีความกดดัน เราแค่ทำตามคำสั่ง ถ้ามีคำสั่งให้เลิกเราก็เลิก
อ่านข่าว : “โรม” ฝากนายกฯ สั่ง “อนุทิน” เร่งตัดไฟสกัดแก๊งคอลเซนเตอร์เมียนมา
"รังสิมันต์" แย้มข้อมูล ตร.ยศ "พล.ต.ต." เอี่ยวธุรกิจกาสิโนเมียวดี
"ภูมิธรรม" ยันยึดมนุษยธรรมโต้กลับ "กัณวีร์" อุ้มผู้ลี้ภัยไหวมั้ย