ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

DSI บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุก 3 โรงงานสมุทรสาคร

อาชญากรรม
31 ม.ค. 68
13:52
0
Logo Thai PBS
DSI บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุก 3 โรงงานสมุทรสาคร
ดีเอสไอปฏิบัติการ “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ” ร่วม กฟภ.บุกทลายเหมืองขุดบิทคอยน์เถื่อน ซุกซ่อนใน 3 โรงงานพื้นที่สมุทรสาคร ทำรัฐสูญรายได้ 500 ล้านบาท

วันนี้ (31 ม.ค.2568) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นายพีระพล ปูรณะโชติ รองผู้ว่าการภาคกลางและใต้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) นายธนะ โชคพระสมบัติ ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) และ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจค้นโกดัง 3 แห่ง ต้องสงสัยว่าใช้เป็นสถานที่ลักลอบใช้ไฟฟ้าเพื่อตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัลผิดกฎหมายใน จ.สมุทรสาคร ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ”

ปฏิบัติการ “รื้อเหมืองขุดบิตคอยน์ลับ” ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับการร้องเรียนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคกลาง) ว่า พบการใช้ไฟฟ้าผิดปกติในโกดังหลายแห่ง โดยตรวจสอบพบว่าเป็นเครือข่ายขุดบิตคอยน์เถื่อนที่ใช้ไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี ทำให้รัฐเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยขอให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นหน่วยงานรับผิดชอบทำการสืบสวน โดยพบว่ามีเครือข่ายผู้ลักลอบกระทำความผิดใช้โกดังลักษณะทำเป็นโรงงาน 3 แห่ง ซึ่งบางแห่งเป็นโกดังร้างไม่มีบุคคลอาศัยอยู่ กระจายตัวในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

เจ้าหน้าที่กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ จึงได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นทั้ง 3 จุด พบเครื่องขุดสกุลเงินดิจิทัล จุดที่ 1 โกดังในพื้นที่ ต.นาดี อ.เมือง จำนวน 396 เครื่อง, จุดที่ 2 ในพื้นที่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จำนวน 462 เครื่อง และจุดที่ 3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จำนวน 930 เครื่อง รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,788 เครื่อง

อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยึดเครื่องมืออุปกรณ์ในการขุดบิตคอยน์จำนวนมากที่สุดเท่าที่มีการจับกุมมา ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงทำให้รัฐสูญเสียรายได้ แต่ยังกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและพลังงานของประเทศ ถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ

กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมขยายผลการสืบสวนเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีกในอนาคต และขอความร่วมมือเจ้าของและผู้พักอาศัยในอาคารพาณิชย์ช่วยสังเกตพื้นที่โดยรอบ หากพบสิ่งผิดปกติหรือสถานที่ต้องสงสัย ให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

ทั้งนี้ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเกี่ยวข้องจะมอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง