Change.orgจับมือเครือข่ายปกป้องกระบี่ฯ ระดม 3 หมื่นชื่อยื่นกฟผ.ไม่เอาโรงไฟฟ้า
วันนี้ (13 ก.ค.) องค์กร Change.org ร่วมกับ เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน ซึ่งประกอบด้วยองค์กร เครือข่าย และกลุ่มต่างๆ รวม 21 องค์กร ประกอบด้วย 1.กลุ่มรักลันตา 2.กลุ่มพิทักษ์ปกาสัย 3.สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวลันตา 4.สมาคมผู้ประกอบการโรงแรมเกาะลันตา 5.มูลนิธิอันดามัน 6.ศูนย์สร้างเสริมจิตสำนึกนิเวศวิทยา 7.กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8.สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย 9.คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ (กปอพช) 10.โครงการปกป้องพื้นที่ผลิตอาหารชายฝั่งภาคใต้ 11.กลุ่มรักตรังปกป้องตรัง 12.กลุ่มรักษ์อันดามัน
13.กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมปกาสัย จังหวัดกระบี่ 14.กลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดกระบี่ 15.เครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดกระบี่ 16.องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน 17.เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านอ่าวพังงา อันดามัน 18.เครือข่ายถ่านหินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Southeast Asia Coal Network 19.เครือข่ายถ่านหิน ประเทศไทย Thailand Coal Network 20.เครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ และ 21.เครือข่ายติดตามผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ตำบลเขาหินซ้อน
ร่วมกันรณรงค์ขอผู้สนับสนุนจำนวน 30,000 รายชื่อ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้ยกเลิกโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ โดยมีข้อเรียกร้องถึงนายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระบุว่า
ชาวกระบี่ไม่ต้องการโรงไฟฟ้าถ่านหิน กรุณาเห็นใจชาวกระบี่ และรับฟังเสียงของชาวไทยที่เรียกร้องให้ยุติแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ที่จังหวัดกระบี่ และทำลายความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและความสวยงามของกระบี่อันเป็นเสมือนมรกตแห่งอันดามันของไทย โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่กำลังผลิต 870 เมกะวัตต์ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำ “ปากน้ำกระบี่” ซึ่งมีความสำคัญระดับนานาชาติและมีผืนหญ้าทะเลที่ใหญ่ที่สุดของประเทศซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 16 กิโลเมตร รวมถึงผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นที่พึ่งพาธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในการดำรงชีวิต และประชาชนกว่าครึ่งล้านคนที่พึ่งพารายได้จากการทำประมงและการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลก
ขอเรียกร้องต่อท่านดังนี้
1.ยกเลิกกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าและท่าเรือขนถ่ายถ่านหิน และการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนโดยทันที รายงาน EHIA ฉบับนี้นอกจากไร้ซึ่งธรรมาภิบาลแล้ว ยังมิได้รับประกันว่าโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งนี้ซึ่งอ้างว่าเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดจะปกป้องสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนจากมลพิษร้ายแรงหลายชนิด เช่น ปรอท ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และฝุ่นละออง เป็นต้นที่ปล่อยออกมา
2.ร่วมมือแบบพหุภาคีเพื่อผลักดันพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามันซึ่งครอบคลุมจังหวัดระนอง พังงา กระบี่ ภูเก็ต ตรัง และสตูล เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินมหาศาลให้กับประเทศเป็นแหล่งมรดกโลกทางทะเล บนฐานการจัดการทรัพยากรแบบมีส่วนร่วมการตัดสินใจยุติโครงการโรงไฟฟ้ากระบี่นี้ยังช่วยปกป้องพื้นที่ชุ่มน้ำปากน้ำกระบี่ที่เปราะบางและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางทะเลของคนไทยทั้งประเทศ เลี้ยงชีพผู้คนนับล้าน
3.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาและส่งเสริมการลงทุนพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างแท้จริง กระบี่มีศักยภาพในการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพื่อสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ได้ถึงร้อยละ 100 หากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในฐานะรัฐวิสาหกิจชั้นนำในด้านพลังงานริเริ่มนำแผนอนุรักษ์พลังงานปี พ.ศ. 2554-2573 และแผนพัฒนาพลังงานทางเลือกปี พ.ศ. 2555-2564 มาปฏิบัติใช้อย่างจริงจังและเร่งผลักดันกลไกที่มีประสิทธิภาพ เช่น กฎหมายพลังงานหมุนเวียนมาใช้
4.การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต้องสร้างฐานข้อมูลการบริโภคไฟฟ้าที่แท้จริงใน แต่ละภาคส่วน แต่ละอุตสาหกรรมและลักษณะการใช้แต่ละประเภท แม้จะเป็นภาระที่ใหญ่หลวง แต่การลงทุนในการสำรวจผู้ใช้ และการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลก็น่าจะเป็นการลงทุนที่ดีกว่าการสร้างโรงไฟฟ้าที่คิดกันว่าเป็นสิ่งจำเป็นแต่ที่จริงแล้วไม่มีความจำเป็นเลย
กระบี่บ้านของเรามีปลาอันเป็นแหล่งอาหารและระบบนิเวศที่สมบูรณ์ของไทย มีแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับต้นของโลก เราสามารถพัฒนาพลังงานหมุนเวียนได้อย่างเพียงพอและเหลือใช้โดยไม่ต้องทำลายมรกตอันล้ำค่าของไทย กรุณารับฟังเสียงเรียกร้องของประชาชน ยุติแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินที่จังหวัดกระบี่ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อปกป้องกระบี่ ไม่กระทบวิถีชีวิตของพี่น้องชาวกระบี่ และไม่ทำลายธรรมชาติอันงดงามของกระบี่ที่คนทั่วโลกรักและหวงแหนสุดหัวใจ
เราขอเรียกร้อง กฟผ. หยุดถ่านหินกระบี่
ด้วยความเคารพและไม่เอาถ่านหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตามการรวบรวมรายชื่อดังกล่าวล่าสุด (เวลา 08.00 น.) ขาดรายชื่ออยู่อีกจำนวน 2,800 คน จะครบ 30,000 รายชื่อ นอกจากนี้ในเวลา 13.00 น. วันนี้ (13 ก.ค.) เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน จะแถลงข่าวที่บริเวณหน้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งมีตัวแทนเครือข่ายฯ นั่งอดอาหารประท้วงอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมาเป็นวันที่ 4 แล้วด้วย