กรณีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดังใน จ.ปทุมธานี สาดน้ำร้อนใส่นักศึกษารุ่นน้อง จนจับดำเนินคดีและมหาวิทยาลัยให้พ้นสภาพนักศึกษา
วันนี้ (11 ก.พ.2568) ตำรวจสภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีคุมตัวพีม และโอชิ ผู้ต้องหากรณีเหตุความรุนแรงของกลุ่ม LGBTQ สาดน้ำซุป โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหากรรโชกทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย เพื่อนำไปฝากขังที่ศาลธัญบุรี โดยโอชิ ใช้ผ้าขนหนูปิดบังใบหน้า และเดินก้มหน้าตลอดเวลาที่เดินออกจากห้องขัง
ส่วนแม่ของพีม ยืนยันว่าจะไม่ขอประกันตัวลูก ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะอยากให้ลูกเจอประสบการณ์ด้วยตัวเอง อยากให้เรียนรู้ชีวิต
อ่านข่าว ไล่ออกทันที! ม.กรุงเทพ ยันรุ่นพี่ผิดจริงสาดน้ำร้อนรุ่นน้องบาดเจ็บ
พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผู้กำกับการ สภ.คลองหลวง กล่าวว่าเกิดความสับสนเล็กน้อยของตำรวจที่มีหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง เพราะไม่ทราบว่าจะแยกผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวออกมาเพื่อฝากขังพร้อมกันในเวลา 13.00 น.
ส่วนกรณีที่มีข่าวเรื่องที่ "พีม" ขายพอตเค ซีเต้ และปาเต้ เพื่อนร่วมหุ้นด้วยกัน ยอมรับว่า ร่วมกันลงทุนขายบุหรี่ไฟฟ้าจริง แต่ไม่ได้ขายพอตเค และไม่ได้จ่ายส่วยให้ตำรวจในการขายบุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด
ส่วนคลิปเสียงบังคับให้ผู้เสียหายวัดดวงดื่มเครื่องดื่มผสมไซยาไนด์ "พีม" ระบุว่า เพียงแค่ขู่เท่านั้นไม่ได้มียาไซยาไนด์ พร้อมฝากเตือนน้อง ๆ เยาวชนอย่าไปทำพฤติกรรมลอกเรียนแบบ เพราะโทษคือการติดคุกและเสียอนาคต
อ่านข่าว ผู้เสียหายแจ้งความเพิ่ม ระบุเคยถูก "พีม" ทำร้ายปี 67
พีม มือสาดน้ำร้อน
พีม มือสาดน้ำร้อน
"ศุภมาส" สั่งปราบมาเฟียมหาวิทยาลัย
น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ทราบว่ามหาวิทยาลัย เร่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตามระเบียบของมหาวิทยาลัย จนกระทั่งมีการให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา และผู้กระทำผิดก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี
ส่วนมหาวิทยาลัย ขณะนี้ก็ยังทำการสอบสวนเพิ่มเติมว่ามีผู้กระทำผิดอีกหรือไม่ และก็พบว่ามีผู้เสียหายที่ออกมาให้ข้อมูลเรื่อย ๆ พร้อมบอกว่า มหากาพย์ทุ่งรังสิตยังไม่จบ ยังคงมีการสอบสวนนักศึกษาคนอื่น ๆ ที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิด จนต้องพ้นสภาพการเป็นนิสิตนักศึกษาอีก
น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
อว.ดำเนินการอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการจัดการมาเฟียในมหาวิทยาลัย ซึ่งยึดตามระเบียบอยู่แล้ว เพราะมีนโยบายว่าสถานศึกษาต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเด็กนักเรียนนักศึกษาอยู่สถานที่เรียนมากกว่าอยู่บ้าน
น.ส.ศุภมาส ระบุว่า กรณีนี้ถือเป็นบทเรียนว่าผู้เสียหาย จะกล้าออกมาเปิดเผยและร้องเรียนมากขึ้น ซึ่งในส่วนของมหาวิทยาลัยก็ต้องดำเนินการตามระเบียบหนักสุด ก็คือให้พ้นสภาพการเป็นนักศึกษา หากมหาวิทยาลัยไหนพบแล้วไม่ดำเนินการทาง อว.ก็ต้องดำเนินการกับมหาวิทยาลัยขั้นเด็ดขาดตาม พ.ร.บ. อุดมศึกษา
อ่านข่าว