วันนี้ (24 ก.พ.2568) ภาพตึก 3 ชั้น ในปอยเปตที่ถูกตำรวจกัมพูชาเข้าทลายขบวนการคอลเซนเตอร์ เมื่อ 3 วันก่อน วันนี้มีช่างเข้าไปซ่อมประตูทางเข้าของตึกดังกล่าวแล้ว
เนื่องจากวันที่ตำรวจกัมพูชาเข้าตรวจค้นจับกุม ประตูทางเข้าได้รับความเสียหาย และหากเข้าไปภายในซอยที่อยู่ติดกับตึกดังกล่าว จะพบว่าพื้นที่ของตึกมีขนาดใหญ่และยาวไปจนสุดถนนด้านข้างตึก จะมีประตูทางเข้าออก และมีคนขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณหน้าประตูต่อเนื่อง โดยมี รปภ. จำนวน 2 คน คอยดูแล ภายในหลังประตูดังกล่าว จะพบว่ามีคนจำนวนหนึ่งพร้อมสัมภาระนั่งคอยอะไรบางอย่างอยู่ด้านใน
ขณะข้อมูลล่าสุดจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว และ ตำรวจภูธรภาค 2 หลังเข้าไปประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอรับตัวคนไทยที่ถูกจับในตึกดังกล่าว กลับระบุตัวเลข คนไทยล่าสุด อยู่ที่ 119 คน โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่คนไทยทั้ง 119 คน ยังไม่สามารถกลับไทยได้ทันที เนื่องจากทางการกัมพูชา ขอสอบสวนทุกคนก่อนส่งตัวกลับไทย
ข้อมูลจากแหล่งข่าวฝั่งปอยเปตบอกว่า การจับกุมคอลเซนเตอร์ตึก 3 ชั้น ไม่ได้มีตัวเลขแค่ 225 คน แต่มีมากถึงกว่า 600 คน และในจำนวนที่หายออกไปนั้นเป็นคนจีน
ห่างจากตึก 3 ชั้น ประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากเพจเฟซบุ๊กปอยเปตนิวส์ ระบุว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) ตำรวจกัมพูชา ได้เข้าไปตรวจค้นตึก ที่ใช้ชื่อว่า K สามารถจับกุมคนไทย ที่เป็นสมาชิกคอลเซนเตอร์ได้จำนวนมาก
จากการสังเกต พบว่าบรรยากาศของตึกเงียบเหงาและไม่มีความเคลื่อนไหว ตำรวจในพื้นที่ระบุว่าการเข้าจับกุมตึกดังกล่าวของตำรวจกัมพูชา แจ้งมาว่ามีคนไทย 9 คนเท่านั้น แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดอื่น ๆ
ส่วนความคืบหน้าในการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ารายงานแนวทางการแก้ปัญหา และความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา กับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดตั้งศูนย์ประสานงาน "ไทย-กัมพูชา" ในการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์ โดยย้ำว่า คนไทยที่ถูกหลอกส่วนใหญ่มาจากกัมพูชาและลาว ส่วนฝั่งเมียวดี-เมียนมา เป็นการใช้บัญชีม้าในการโอนเงิน เบื้องต้นจากการตรวจสอบ ยังไม่พบว่ามีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องกับคอลเซนเตอร์ ในพื้นที่เมียวดี
อ่านข่าวอื่น :
พบเมือง "ชเวโก๊กโก่" ยังเดินหน้าก่อสร้างอาคาร
"จเรตำรวจ" รายงาน "ภูมิธรรม" กวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ในปอยเปต