ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"วราวุธ" แถลงเวทีนานาชาติ CSW 69 โชว์ไทยสร้างเสมอภาคทางเพศ-ผลักดันสมรสเท่าเทียม

สังคม
12 มี.ค. 68
09:57
66
Logo Thai PBS
"วราวุธ" แถลงเวทีนานาชาติ CSW 69 โชว์ไทยสร้างเสมอภาคทางเพศ-ผลักดันสมรสเท่าเทียม
อ่านให้ฟัง
06:17อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
”วราวุธ“ กล่าวถ้อยแถลง เวที CSW 69 ยก สิทธิสตรีคือสิทธิมนุษยชน ชูนายกฯ ไทย เป็นผู้นำหญิงรุ่นใหม่ มีความสามารถ-ขับเคลื่อนนโยบายหลายด้าน

วันที่ 11 มี.ค.2568 (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย นำคณะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรีสมัยที่ 69 (Commission on the Status of Women) หรือการประชุม CSW 69 ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 30 ปี ปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี

ในช่วงบ่าย เวลา 15.00 น. นายวราวุธและคณะ เข้าร่วมการประชุมการติดตามผลการประชุมโลกว่าด้วยสตรี ครั้งที่ 4 และผลลัพธ์ของการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ สมัยพิเศษ ครั้งที่ 23 ภายใต้หัวข้อ “สตรี 2000: ความเสมอภาคระหว่างเพศ การพัฒนา และสันติภาพสำหรับศตวรรษที่ 21”

นายวราวุธได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ระบุว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้กล่าวต่อที่ประชุม CSW 69 ในขณะที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2025 ซึ่งถือเป็นปีที่ครบรอบ 30 ปีของปฏิญญาปักกิ่ง

เราภูมิใจในความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในหลายด้าน แต่ยังตระหนักดีว่า เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกันต่อไปเพื่อบรรลุพันธสัญญาที่สำคัญว่า “สิทธิมนุษยชนคือสิทธิสตรี และสิทธิสตรีคือสิทธิมนุษยชน” ซึ่งเป็นหัวใจหลักของปฏิญญาปักกิ่งและแผนปฏิบัติการเพื่อความก้าวหน้าของสตรี

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย เรายังคงมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และตนในฐานะ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะยังคงพยายามที่จะผนวกมุมมองเรื่องความเท่าเทียมทางเพศเข้าสู่การขับเคลื่อนนโยบายในทุกด้านถือว่าเป็นงานที่สำคัญ

ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ของไทย เป็นผู้นำหญิงรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ ได้ริเริ่มนโยบายหลายด้านเพื่อขับเคลื่อนพันธสัญญา ภายใต้ปฏิญญาปักกิ่ง อาทิ นโยบายด้านการจ้างงานและเศรษฐกิจ, การยุติความรุนแรงต่อสตรี, การขจัดความยากจน, การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของสตรีและเด็กหญิง LGBTQIA+ และบุคคลที่เผชิญกับการเลือกปฏิบัติที่ซับซ้อนหลากหลายมิติ

นายวราวุธกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทย มีความก้าวหน้าที่สำคัญ ด้วยการออกกฎหมายสำคัญ คือ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศที่สามในเอเชีย และประเทศที่ 37 ของโลกที่ออกกฎหมายนี้ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.2025

กฎหมายนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แสดงให้เห็นว่า ความรักไม่มีขอบเขตจำกัด ในส่วนของนโยบายการจัดการกับความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ เราดำเนินการอย่างเคร่งครัดเช่นกัน ซึ่งประเทศไทยได้จัดตั้งศูนย์จัดการภาวะฉุกเฉินด้านความมั่นคงของมนุษย์ บริการตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านสายด่วนและแอปพลิเคชันต่าง ๆ โดยให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่เผชิญปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาความรุนแรงทางเพศ

นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านโครงสร้างประชากร ผู้หญิงจึงเป็นพลังสำคัญในการเอาชนะกับดักนี้ กระทรวง พม. ได้พัฒนานโยบาย “5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ที่มุ่งรับมือกับความท้าทายจาก “สังคมสูงวัย” โดยให้โอกาสและทางเลือกในการเสริมสร้างความสามารถของผู้หญิงในตลาดแรงงานและการดูแลครอบครัว

นายวราวุธ กล่าวว่า ขอรับรองว่า ตนและรัฐบาลไทย จะยังคงต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศต่อไป มุ่งมั่นที่จะทำให้อนาคตนี้เป็นจริง และหวังว่าปฏิญญาทางการเมืองที่ได้รับการรับรองเมื่อวานนี้จะเป็นแรงผลักดันสู่ความเท่าเทียมทางเพศที่แท้จริง และเราเชื่ออย่างแท้จริงว่าความเท่าเทียมทางเพศไม่ใช่เพียงเป้าหมาย แต่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ควรทำ

หากเราไม่ทำอะไรในวันนี้ พรุ่งนี้ เดือนหน้า หรืออีกหลายปีข้างหน้า หรือแม้แต่ในอีก 30 ปีข้างหน้า เราก็จะไม่มีวันบรรลุเป้าหมายของความเท่าเทียมทางเพศ และถ้าไม่ใช่พวกเราแล้วจะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะเป็นเมื่อไหร่

ดังนั้น ขอให้เราฉวยโอกาสนี้สร้างโลกที่เท่าเทียมทางเพศอย่างแท้จริงสำหรับทุกคน “การทำงานของประเทศไทยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา หนึ่งในผลงานสำคัญคือการออกกฎหมายสมรสเท่าเทียมทำให้บุคคลสองคนสามารถแต่งงานกันได้โดยไม่แบ่งเพศว่าหญิงหรือชาย ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของรัฐบาลไทยเป็นสุภาพสตรีที่มีความสามารถจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการปกป้องสิทธิสตรีและส่งเสริมพลังสตรีทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคม” นายวราวุธ กล่าว

อ่านข่าว : รพ.รามาฯ แจงเหตุไฟไหม้ อพยพผู้ป่วยไปพื้นที่ปลอดภัย ปิดอาคารชั่วคราว

ผู้นำฟิลิปปินส์แถลงส่งตัว "ดูเตอร์เต" ไปศาลอาญาโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง