วันนี้ (12 มี.ค.2568) แม่ของผู้ต้องขังชายเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี พร้อมนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ระบุว่าลูกชายถูกผู้คุมในเรือนจำ 6 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยขอให้แม่ทำเรื่องร้องเรียนไปที่เรือนจำ แต่กลับถูกข่มขู่และกลั่นแกล้งหนักกว่าเดิม จนต้องฝากจดหมายมากับเพื่อนผู้ต้องขังที่พ้นโทษเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งครอบครัวเกรงว่าลูกชายจะถูกทำร้ายจนทนไม่ไหว
นายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องขังได้ติดต่อให้ญาติดำเนินการเอาเรื่องตามกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านี้ญาติพยายามร้องเรียนไปทางเรือนจำ แต่ไม่มีความชัดเจนและไม่คืบหน้า เมื่อเห็นข่าวอดีต ผกก.โจ้ เสียชีวิตในเรือนจำ จึงมีความกังวล เนื่องจากลูกชายของครอบครัวนี้ถูกแยกขังเดี่ยวเช่นกันและมีจดหมายขอความช่วยเหลือมาถึงญาติ จึงอยากให้ดีเอสไอตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย หากดีเอสไอจะรับสอบสวนคดีของอดีต ผกก.โจ้ ก็อยากให้ปฏิบัติกับนักโทษที่ญาติมาติดต่อร้องเรียนให้เหมือนกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
ไม่ได้บอกว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความผิด แต่เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความกระจ่างและมีคำอธิบายให้กับญาติ
หากมีคนถูกกระทำภายในหน่วยงาน ต้องให้หน่วยงานภายนอกเข้าไปตรวจสอบ และเมื่อเห็นดีเอสไอรับสืบสวนคดีของอดีต ผกก.โจ้ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบอีกเรือนจำหนึ่งด้วย
ด้านแม่ของผู้ต้องขัง ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2567 เรือนจำเปิดให้เข้าเยี่ยมเป็นกรณีพิเศษ ตนจึงไปเยี่ยมลูกและทราบว่าลูกถูกทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด พร้อมขอให้ช่วยร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
พร้อมระบุว่า แดน 4 เป็นแดนที่มีการควบคุมพิเศษ การเยี่ยมแต่ละครั้งจะถูกบันทึกภาพและเสียง โดยเป็นการเยี่ยมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ลูกจึงไม่สามารถเปิดบาดแผลที่ถูกทำร้ายให้ดูได้ แต่ทราบว่ามีการแบ่งเป็น 2 บ้านคือ บ้านภาคกลางกับบ้านภาคใต้ ซึ่งมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน ผู้คุมจึงเข้าระงับเหตุและมีการทำร้ายร่างกายโดยใช้ไม้กระบองตี รวมถึงมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทั้งถูกกระทืบ ตีทั่วร่างกาย มัดมือไขว้หลังและบังคับให้คลานไปกับพื้นจนได้รับบาดเจ็บ
แม่ของผู้ต้องขัง ระบุอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุและขณะนี้ลูกชายถูกงดเยี่ยม 3 เดือน เนื่องจากผิดวินัย จึงกังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกชาย เพราะได้เข้าเยี่ยมลูกชายครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าร่างกายซูบผอม และเมื่อวันที่ 7 มี.ค. เพื่อนของลูกชายไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนหลังถูกผู้คุมทำร้าย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ติดต่อตนเพื่อขอสอบปาก ตนจึงบอกไปว่าควรสอบปากคำนักโทษมากกว่า จากนั้นก็ไม่ทราบความคืบหน้า
นายรณณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งกรณีที่ญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิตภายในเรือนจำ แม้กรมราชทัณฑ์กับ ผอ.เรือนจำ จะให้ข่าวชี้แจงกรณีนี้แล้ว แต่จะให้ญาติเข้าให้ข้อมูลกับดีเอสไอเพื่อให้ตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และเพื่อให้เกิดความกระจ่างว่าภายในเรือนจำไม่มีการซ้อมทรมาน
อ่านข่าว
"ราชทัณฑ์" ยัน "ผู้ต้องขัง-จนท." ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย นช.เสียชีวิต