เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2568 สภายุโรปมีมติรับรองข้อมติด้านสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับไทย ซูดานและอาเซอร์ไบจาน หลังอภิปรายญัตติร่วมในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในไทย กรณีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือ มาตรา 112 และการเนรเทศผู้อพยพชาวอุยกูร์
สำหรับไทย สภายุโรปมีมติประณามการส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน และเรียกร้องให้ประเทศไทยยุติการบังคับส่งกลับไปยังประเทศที่ชีวิตของประชาชนตกอยู่ในอันตราย
สมาชิกรัฐสภายุโรปเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป ใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือกดดันให้ประเทศไทยปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับประเทศ และให้สัตยาบันอนุสัญญาหลักทั้งหมดขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)

สมาชิกรัฐสภายุโรปยังขอให้รัฐบาลไทยอนุญาตให้ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เข้าถึงผู้แสวงหาที่พักพิงชาวอุยกูร์ที่ถูกกักกันทั้งหมด โดยไม่มีข้อจำกัดและให้ข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับสถานะของพวกเขา พร้อมแนะว่าควรระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับจีน และย้ำว่าจีนต้องเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของชาวอุยกูร์ที่ถูกส่งกลับ ให้ความโปร่งใสเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา อนุญาตให้ UNHCR เข้าถึง และปล่อยตัวผู้ถูกกักกัน
สมาชิกรัฐสภายุโรปรับรองข้อมตินี้ด้วยคะแนนเสียง 482 ต่อ 57 เสียง โดยมีผู้งดออกเสียง 68 เสียง
สภายุโรปประณามประเด็นสิทธิซูดาน-อาเซอร์ไบจาน
ขณะเดียวกันสภายุโรปยังเรียกร้องให้ซูดานแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมือง มนุษยธรรมและสิทธิมนุษยชนที่รุนแรง โดยเฉพาะความรุนแรงทางเพศและการข่มขืนเด็ก โดยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในซูดานหยุดการสู้รบในทันทีและใช้การเจรจาเพื่อหาทางออก เปิดทางให้ผู้พลัดถิ่นหลายล้านคนเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยไม่มีอุปสรรค

สมาชิกรัฐสภายุโรปประณามการโจมตีพลเรือนเป็นวงกว้างและความรุนแรงทางเพศ โดยเฉพาะกรณีการข่มขืนเด็กที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นฝีมือของทั้งกองทัพซูดาน (SAF) และกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (RSF) ผู้ที่รับผิดชอบต่ออาชญากรรมเหล่านี้ต้องถูกดำเนินคดี ข้อมตินี้ได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 575 ต่อ 7 เสียง
วาระการประชุมเดียวกันนี้ยังประณามการกักขังที่ขัดต่อกฎหมายและการพิจารณาคดีตัวประกันชาวอาร์เมเนีย และตัวแทนทางการเมืองระดับสูงจากนากอร์โน-คาราบัค อย่างอุปโลกของอาเซอร์ไบจาน โดยสภายุโรปประณามการกักขังตัวประกันชาวอาร์เมเนียอย่างไม่เป็นธรรมของอาเซอร์ไบจาน เรียกร้องให้ปล่อยตัวทันทีและอำนวยความสะดวกให้เกิดการสอบสวนอิสระเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสม
นอกจากนี้ สภายุโรปยังเรียกร้องให้มีการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่อาเซอร์ไบจานที่รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเรียกร้องให้ศาลอาญาระหว่างประเทศสอบสวนการบังคับย้ายถิ่นฐานและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของประชากรชาวอาร์เมเนียในนากอร์โน-คาราบัค โดยต้องการให้สหภาพยุโรประงับบันทึกความเข้าใจด้านพลังงานระหว่างสหภาพยุโรปกับอาเซอร์ไบจานเพื่อกดดัน ซึ่งข้อมตินี้ได้รับการรับรองด้วยคะแนนเสียง 523 ต่อ 3 เสียง
อ่านข่าว
คุมขัง "ดูเตอร์เต" ในศูนย์กักกันของ ICC รอขึ้นศาลโลก
รอยร้าว 2 ตระกูลการเมืองสู่การล่มสลายของ "ดูเตอร์เต"
ทรัมป์เก็บภาษีเหล็ก 25% ทั่วโลก ลุ้นรัสเซียรับข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน