เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2568 หลายคนให้ความสนใจการเตรียมลงคะแนนรับรองมติของสภายุโรป ที่เรียกร้องให้ใช้การเจรจาการค้าเสรี หรือ FTA เป็นแต้มต่อ กดดันไทยให้ปฏิรูปกฏหมายที่จำกัดเสรีภาพ รวมถึงระงับการเนรเทศผู้อพยพชาวอุยกูร์ ซึ่งล่าสุดลงมติเรียบร้อยแล้ว ผลออกมาว่าสภายุโรปประณามประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนในไทย สมาชิกรัฐสภายุโรป ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 482 เสียง ไม่เห็นชอบ 57 เสียง และงดออกเสียง 68 เสียง ประณามการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ไปยังจีน และระบุข้อเรียกร้องทั้งหมดมายังรัฐบาลไทย ใน 8 ข้อ
- ประณามการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีน เรียกร้องให้ทางการไทยหยุดการส่งตัวผู้ลี้ภัย ผู้ขอสถานะผู้ลี้ภัย และผู้เห็นต่างทางการเมืองกลับประเทศที่ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในความเสี่ยงโดยทันที
- เรียกร้องให้รัฐบาลไทย อนุญาตให้ UNHCR เข้าถึงผู้ขอสถานะผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขังทั้งหมดได้โดยไม่จำกัด และให้ข้อมูลสถานะของพวกเขาอย่างโปร่งใส
- เรียกร้องให้จีนเคารพสิทธิพื้นฐานของชาวอุยกูร์ที่ถูกเนรเทศ รับรองความโปร่งใสเกี่ยวกับที่อยู่ของพวกเขา อนุญาตให้ UNHCR เข้าถึงพวกเขา และปล่อยตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกกักขัง
- เรียกร้องให้ไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยปี 1951 และพิธีสารปี 1967 และดำเนินการตามระบบการลี้ภัยที่โปร่งใส ยุติธรรม และมีมนุษยธรรม
- เน้นย้ำว่าไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรป กระตุ้นให้ไทยเสริมสร้างสถาบันต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 และกฎหมายที่กดขี่อื่น ๆ เพื่อรับประกันสิทธิในการแสดงออกอย่างเสรี การชุมนุมอย่างสงบ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง
- เรียกร้องให้มีการนิรโทษกรรมแก่สมาชิกรัฐสภาและนักเคลื่อนไหวทุกคนที่ถูกดำเนินคดีหรือจำคุก ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและกฎหมายที่กดขี่อื่น ๆ
- เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรป ใช้ประโยชน์จากการเจรจาการค้าเสรี (FTA) เพื่อกดดันให้ประเทศไทยปฏิรูปกฎหมายที่เข้มงวด โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ปล่อยตัวนักโทษการเมือง หยุดการเนรเทศผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ และให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาหลักของ ILO ทั้งหมด เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสาธารณรัฐประชาชนจีน
- แนะนำให้ประธานรัฐสภายุโรป ส่งมติฉบับนี้ไปยังคณะมนตรียุโรป คณะกรรมาธิการยุโรป และทางการไทยและจีน
อ่านข่าว : "สภายุโรป" โหวตประณามไทยส่งอุยกูร์-เรียกร้องใช้ FTA กดดันแก้ กม.
หากประเด็นการเจรจาการค้าเสรี FTA ถูกหยิบยกมาเป็นเครื่องมือกดดันไทยจริง จะมีผลกระทบต่อความพยายามของไทยในช่วงที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะไทยพยายามเร่งเครื่องการเจรจา FTA ไทย-EU เพื่อจะให้สิทธิพิเศษด้านการค้าระหว่างกัน ขยายตลาดและดึงนักลงทุนจากยุโรป การเจรจาทำแล้ว 4 รอบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ บอกว่า สรุปผลการเจรจาได้ 2 บท และเริ่มหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและบริการ โดยการเจรจารอบที่ 5 ฝ่าย EU จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 31 มี.ค.-4 เม.ย.2568 คาดหวังว่าจะสรุปเจรจาได้ภายในสิ้นปีนี้
น่ากังวลว่าการออกมาประนามไทยของสภายุโรปครั้งนี้ จะมีผลอย่างไรหรือไม่ ขณะที่คู่ค้าคู่แข่งสำคัญของไทยอย่างเวียดนาม หลังจากได้ FTA เวียดนาม-ยุโรปแล้ว ทำให้เกิดข้อตกลงการค้าใหม่ ๆ ขึ้นมากมาย ที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของเวียดนามให้ขยายตัวได้ดีต่างจากไทย
สำหรับ EU เป็นคู่ค้าลำดับที่ 4 ของไทย รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น มีมูลค่าการค้ารวม 1.54 ล้านล้านบาท มองเฉพาะไทยส่งออกไป EU มูลค่าประมาณ 850,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.1 ของตลาดส่งออกของไทยกับโลกทั้งหมด สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบอัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และชิ้นส่วน
น่ากังวลว่าปัญหาจะลุกลามไปถึงการค้าจริงหรือไม่ ทั้งยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งสหรัฐฯ คือตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทย หากการส่งออกและยุโรปและสหรัฐฯ รวมกัน อาจกระเทือนสัดส่วนการส่งออกรวมร้อยละ 26.4 มากกว่าการส่งออกไปอาเซียนซึ่งเป็นตลาดอันดับ 1 ในเวลานี้
อ่านข่าว : "กัณวีร์" ยกปมส่งอุยกูร์ สะท้อนไทยตกเหวกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ