วันนี้ (22 มี.ค.2568) นายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการภาคตะวันออก ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมาย สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เข้าพูดคุยกับ ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ ปัญญาเลิศศรัทธา ผู้บังคับหมู่สืบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เพื่อให้ความช่วยเหลือ กรณีสอบติดชั้นสัญญาบัตร ได้ 91 คะแนน และผ่านการสอบวัดสมรรถนะด้านร่างกาย ว่ายน้ำ และวิ่ง ผ่านทั้งหมด แต่ถูกคณะกรรมการปัดตก เพราะขาพิการ
โดยมองว่า กรณีดังกล่าว สะท้อนถึงการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมกับผู้พิการ ขัดต่อ พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการแห่งสหประชาชาติ จึงเรียกร้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาปรับแก้ระเบียบ เพื่อเปิดโอกาสให้ตำรวจผู้พิการทุกคน ได้รับโอกาสทำหน้าที่อย่างเท่าเทียมกัน
ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ บอกว่า ตั้งใจสอบ 2 ครั้ง โดยปี 2566 สอบผ่านข้อเขียน และสมรรถนะด้านร่างกาย แต่ถูกตัดสิทธิ์ เพราะใส่ขาเทียม เช่นเดียวกับปี 2567 ก็ต้องผิดหวัง แม้จะสอบผ่านเหมือนเช่นเดียวกับในปี 2566
เขาบอกว่า ส่วนตัวมองว่า ความพิการไม่ได้เป็นอุปสรรค แม้ปัจจุบันจะใส่ขาเทียม ตั้งข้อสังเกตว่าประกาศกองบัญชาการศึกษา ระบุคุณสมบัติผู้รับสมัคร ต้องไม่เป็นผู้มีร่างกายผิดปกติ หรือ พิกลรูป หรือ พิการ อันเป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติหน้าที่
จึงต้องการให้มีการพิจารณาเป็นรายกรณี และให้ตีความคำว่า "อุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่" ให้ชัดเจน ซึ่งการกำหนดคุณสมบัติ "ห้ามผู้พิการ" สมัครสอบ เพิ่งกำหนดปีแรกเมื่อปี 2567
กองบัญชาการศึกษา ชี้แจงว่า ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ ขาดคุณสมบัติผู้รับสมัคร ที่ระบุว่า ต้องไม่เป็นผู้มีร่างกายผิดปกติ หรือ พิกลรูป หรือ พิการ อันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ และพิจารณาเห็นว่า การใส่ขาเทียม เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินกิจวัตรประจำวันในการปฏิบัติหน้าที่ หากมีสถานการณ์เกิดเหตุ หรือ เหตุซึ่งหน้า อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่นและตัวเอง
ส่วนสาเหตุที่ไม่ตัดสิทธิ์การสอบตั้งแต่แรก เพราะเป็นการสมัครทางอินเทอร์เนต ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ
ขณะที่ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ส.ต.อ.ธนวรรฒน์ สามารถยื่นอุทธรณ์ผลการสอบได้ภายใน 30 วัน ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้กองบัญชาการศึกษาทบทวนการพิจารณาใหม่ โดยให้คำนึงถึงผลการปฏิบัติงาน ความรู้ ความสามารถ ว่าสามารถปฏิบัติหน้าที่ หรือ เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ขณะนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับแก้ หรือ ยกเว้น กฎระเบียบ เพื่อให้ตำรวจที่มีความพร้อมในการทำงานเพื่อประชาชน สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ระบุไว้ว่า หน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน หรือ บุคคลใดในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการ แม้จะไม่ได้มุ่งหมายให้เป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนพิการโดยตรง แต่ผลของการกระทำ ทำให้คนพิการเสียสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้รับ เพราะเหตุแห่งพิการด้วย
ส่วนมาตรา 16 คนพิการที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม มีสิทธิเรียกร้องให้มีคำสั่งเพิกถอนการกระทำ หรือ ห้ามมิให้กระทำการนั้นได้
อ่านข่าวอื่น :