การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเมื่อเวลา 22.25 น. หลังใช้เวลาอภิปราย 2 วัน 2 คืน (วันที่ 24 -25 มี.ค.2568) เนื้อหาเน้นไปที่การบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ รวมถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร พักรักษาตัวชั้น 14 เป็นการใช้อภิสิทธิ์เหนือกฎหมายหรือไม่

นายกฯ ชี้แจงประเด็นไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้าน
"ปมอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พักชั้น 14 ในช่วงที่ถูกคุมขัง" เป็นประเด็นที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน นำมาอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่า นายกฯ เป็นประจักษ์พยานรู้เห็นทุกอย่างและจะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุดจึงไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป เพราะนายกฯ เห็นประโยชน์แก่บิดาตนเองและครอบครัวเหนือผลประโยชน์ส่วนรวม

ขณะที่ น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ หยิบยกการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนของนายกฯ ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้นำประเทศ ทั้งที่เป็นหน้าที่ของนายกฯในการสื่อสารเพื่อ เพื่อความกระจ่างและป้องกันความสับสน เช่น การแสดงวิชันของนายกฯ ที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังขอผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศทั้งในเวที Forbes หรือในเวทีโลก
ฝ่ายค้านจี้นายกฯ ปมเอกสารสิทธิที่ดิน รร.หรูเขาใหญ่
ฝ่ายค้าน ยังอภิปรายเพื่อเชื่อมโยงไปยังข้อกล่าวหา นายกฯ ขาดคุณสมบัติเหมาะสม ไม่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ โดยนายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน ตั้งคำถามถึงการตรวจสอบที่ดิน โรงแรมเทมส์ วัลลีย์ ในพื้นที่เขาใหญ่ ของครอบครัวนายกรัฐมนตรี โดยบอกว่า การมีโฉนดไม่ได้หมายถึงการครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย และการออกโฉนดโรงแรมแห่งนี้ทำในช่วงเวลาที่คนนามสกุลเดียวกัน อยู่ในตำแหน่ง

ซัดนายกฯ ผักชีโรยหน้าแก้คอลเซนเตอร์
ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปราย เกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ แก๊งคอลเซนเตอร์ โดยกล่าวถึงการบริหารงานของนายกรัฐมนตรีว่า ถึงแม้ว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล แต่ก็เป็นเพียงภาพลวงตา เป็นเพียงผักชีโรยหน้า ที่จะทำให้ประชาชนเชื่อว่าได้เอาจริงเอาจัง
ในความเป็นจริงนายกรัฐมนตรี ยังมีพฤติกรรมที่ไม่น่าไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินได้อีกต่อไป เพราะขาดภาวะผู้นำ เกิดการเกี่ยงงานที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนมหาศาล โดยนายกรัฐมนตรียังลอยตัวเหนือปัญหา ไม่ตัดสินใจทั้งที่ความเสียหายเกิดขึ้นกับประชาชนรายวัน จนให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามากดดันถึงจะได้มีการลงมือ
จบอภิปรายไม่ไว้วางใจ "นายกฯ" ลุ้นโหวตวันนี้
นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมระบุว่า การอภิปราย 2 วัน ได้ยินชื่อตัวเองมากที่สุดในชีวิต ที่ผู้นำฝ่ายค้าน ได้ย้ำเรื่องของภาวะผู้นำ และเรื่องของการถูกครอบงำอยู่บ่อยครั้ง คนที่ย้ำเรื่องเดิมๆ คงเป็นคนที่ขาดสิ่งนั้น และที่จริงไม่ใช่แค่ตนเองที่ถูกกล่าวหาเรื่องการถูกครอบงำ แต่ฝ่ายค้านเองก็ถูกกล่าวหา ต่างกันแค่ตนเองถูกกล่าวหาว่าถูกครอบงำโดยคุณพ่อ แต่ท่านถูกครอบงำโดยบุคคลที่ไม่ใช่พ่อ

ส่วนเส้นทางทางการเมืองก็มีความคล้ายคลึงกัน กว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็เจอชะตากรรมและการถูกกระทำไม่ต่างกัน ดังนั้นคงต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และไม่ควรด้อยค่าคนอื่น ส่วนข้อกล่าวหาดีลแลกประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกที่บนโลกใบนี้ก็มีการดีลกันทั้งนั้น และที่ผ่านมาเราก็มีดีลกันแต่ไม่สำเร็จ
ดังนั้นเพื่อความชัดเจนเพื่อสร้างแนวการเมืองแบบใหม่ ควรจะประกาศให้ชัดไปเลยว่าสมัยหน้าท่านจะร่วมหรือไม่ร่วมกับใคร พูดให้ชัดตั้งแต่วันนี้ ประชาชนจะได้เกิดความสบายใจ
ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นกล่าวปิดญัตติด้วยน้ำเสียงดุดัน ว่า นายกฯ ระบุพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน อยู่ในหัวอกเดียวกัน โดนนิติสงคราม โดนยุบพรรค ไม่ต่างกัน แต่คำถามอยู่ที่ว่า นายกฯ จะจัดการปัญหานี้อย่างไร จะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร แต่การกระทำของนายกฯไม่เหมือนกับที่พูดไว้ เจตจำนงทางการเมืองของนายกฯอยู่ไหน เหตุผลที่มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคืออะไร

ระหว่างที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ กล่าวปิดญัตติได้ พูดย้ำหลายครั้งว่าเดี๋ยวจะให้นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้งจนทำให้ สส.จากพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ต่างลุกขึ้นประท้วง เพราะนายกฯไม่สามารถลุกขึ้นตอบได้แล้ว หลังจากที่ผู้นำฝ่ายค้านปิดญัตติ โดยมีการโต้แย้งประธานในที่ประชุม หลังจากการถกเถียงนานกว่า 10 นาที สุดท้ายประธานในที่ประชุม ได้ตัดบทให้นายณัฐพงษ์ กล่าวปิดญัตติ ได้จนครบเวลาในเวลา 22.25 น. ไม่เกินเที่ยงคืน

สิ่งที่ต้องจับตาหลังจากนี้ คือเรื่องของการโหวตที่จะเริ่มขึ้นในวันนี้ (26 มี.ค.) เวลา 10.00 น. และจากกระแส สส. "งูเห่า" ทั้ง 2 ฝ่ายก็เริ่มเช็คเสียง โดยพรรคร่วมรัฐบาล มีการตกลงกันตั้งแต่ในวงดินเนอร์ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามตกลงคือ 321 เสียง ไม่มีแตกแถว
ขณะที่ฝ่ายค้านมีกระแสปูดออกมาว่าจะไม่ครบ 172 เสียง สอดคล้องกับที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าจะมี สส.มากกว่า 10 เสียงจะโหวตสนับสนุน น.ส.แพทองธาร ส่วนจะเป็นพรรคไหนให้ติดตามในวันนี้
ถ่ายทอดสดลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร
อ่านข่าว : 20 ปีความขัดแย้ง "ณัฐพงษ์" ซัดนายกฯ ยอมเสียชาติเพื่อ "ทักษิณ"