แม้มุมมองนักวิชาการ อย่าง รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว มหาวิทยาลัยบูรพา เห็นว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับนักการเมือง ที่กลับมา เจอหน้าเจอตากันอีกครั้ง แม้ว่าในส่วนลึก อาจตะขิดตะขวงใจกันอยู่บ้าง เพราะเพิ่งแสดงออกถึงจุดยืนที่แตกต่างกันเรื่องกาสิโน
แต่เชื่อว่าจะไม่ขัดแย้งถึงขั้นอยู่ร่วมรัฐบาลไม่ได้ แม้ว่าแกนนำระดับล่างส่วนหนึ่ง ต้องการให้ขับพรรคภูมิใจไทย ออกจากรัฐบาล จึงต้องอยู่ร่วมกันในลักษณะต่อรองถ่วงดุลอำนาจแบบนี้ต่อไป เนื่องจากพรรคภูมิใจไทย มีการวางเกมการเมืองไว้หลากหลายหน้า
ด้านหนึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ยังแสดงท่าทีเคารพรักต่อนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แต่ในอีกด้านหนึ่ง ได้เห็นท่าทีของ นายไชยชนก นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รวมถึงนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล บิดาของ 2 พี่น้องตระกูล “ปริศนานันทกุล” แสดงออกตรงกันข้ามกับรัฐบาล โดยเฉพาะกาสิโน ในร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
แม้จะไม่เป็นที่ชื่นชอบของแกนนำในรัฐบาล แต่ในทางกลับกัน กลับปรากฏเสียงโห่ร้องยินดีจากมวลชน ที่ต้องการเห็นพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคการเมืองในปีกอนุรักษ์นิยม หลังจากพยายามมองหาตัวตายตัวแทน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาก่อนหน้านี้
จึงได้เห็นการปรับเปลี่ยนโลโก้พรรค จากสีน้ำเงินปนแดง เป็นสีน้ำเงินล้วน ๆ และได้เห็นการแสดงท่าทีพินอบพิเทากับเครือข่ายชนชั้นนำทั้งหมดมากขึ้น ยิ่งเป็นการเพิ่มดุลอำนาจทางการเมืองของพรรคให้สูงยิ่งขึ้น
ต่างจากพรรคเพื่อไทย ที่พยายามเดินตามแนวทางของนายทักษิณ แต่ต้องเผชิญกับปัญหาสำคัญ คือ นายทักษิณวันนี้ ไม่ได้มีอำนาจบารมีเทียบเท่ากับนายทักษิณเมื่อ 17-18 ปีก่อน
การหวังจะเดินหน้าต่อของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย จึงไม่ง่ายอย่างที่คาดหวัง เพราะพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงจุดยืนปฏิเสธไม่เอากาสิโนผ่านนายไชยชนกไปแล้ว
ต้องไม่ลืมว่า การเดินหน้าต่อไม่เอากาสิโนของพรรคภูมิใจไทย เป็นการเปิดเกม เพื่อชิงการนำ และรวบรวมเสียงสนับสนุน จากขั้วอนุรักษ์นิยมดังว่า ด้วยเชื่อว่าเสียงส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ ไม่เอากาสิโน เพราะเป็นตัวทำลายวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ขัดต่อหลักศีลธรรมอันดี และจะก่อให้เกิดหายนะแก่ประเทศชาติตามมา
ยิ่งหากกลับไปดูผลโพล โดยเฉพาะนิด้าโพล ที่ได้รับการยอมรับ และทำสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองเป็นรายไตรมาสต่อเนื่องนานหลายปี จะเห็นคะแนนนิยมในตัวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถือเป็นพรรคที่สืบทอดดีเอ็นเอ “ลุงตู่” ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ
ล่าสุด ผลโพลไตรมาสแรกปี 2568 นายพีระพันธุ์ มีเสียงสนับสนุนจากให้เป็นนายกฯ อยู่ในอันดับ 4 เป็นรองเพียง น.ส.แพทองธาร 30.9 % และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่ได้ 25.8 % เท่านั้น
แม้นายพีระพันธุ์จะมีเสียงสนับสนุนเพียง 8.45 % แต่ถือเป็นคะแนนเสียงที่ไต่สูงขึ้นเป็นลำดับอย่างมีนัยสำคัญ และยิ่งหากพิจารณา อันดับ 3 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ มีสูงถึง 23.70 % ใกล้เคียงกับนายณัฐพงษ์ หากกลุ่มยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ คนเหล่านี้ไปเทคะแนนให้กับใคร หรือพรรคการเมืองใด คนนั้นก็จะได้ลุ้นทันที
ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แม้ที่ผ่านมา จะเป็นพรรคยอดนิยมลำดับต้น ๆ ของนักการเมืองบ้านใหญ่ และผู้สมัค รสส.หน้าเก่า และหน้าใหม่ แต่สำหรับคะแนนนิยมจากประชาชน หากดูจากผลโพลมีน้อยมาก แกนนำในพรรคย่อมทราบเรื่องนี้ดี
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะมีเสียงพูดวงในว่า ผู้มีบารมีตัวจริง เริ่มพูดเรื่อง “เลิกเป็นพระรอง” มาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพราะหากยังเล่นการเมืองแบบเดิม ๆ ต่อไป ก็ไม่ต้องไปนึกถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้เสียเวลา
นี่จึงอาจเป็นทาง 3 แพร่ง ที่พรรคภูมิใจไทยเดินทางมาถึงแล้ว และได้เวลาต้องตัดสินใจว่าจะไปต่ออย่างไร แบบเดิม ๆ หรือแบบมีความหวัง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ทักษิณ" ต้อนรับ “อันวาร์-มินอ่อง ไลง์” เจรจากำแพงภาษีสหรัฐ
“นิติเวช” ส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม ให้ครอบครัวแล้ว 21 คน